'ภูมิธรรม' โชว์ผลงานเพียบ Quick Win พาณิชย์ 99 วัน

“ภูมิธรรม” โชว์ผลงาน Quick Win 99 วัน ของทีมพาณิชย์ ลุยขับเคลื่อน 3 ซ่อม เพื่อช่วยลดช่องว่าง 8 สร้าง เพื่อต่อเติม และ 4 เสริม เพื่อยั่งยืน สามารถช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ ช่วยคนตัวเล็ก SMEs เกษตรกร มีรายได้ สร้างความหวัง และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย

28 ธ.ค. 2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน Quick Win 99 วัน กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ว่า ผลการทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่ไม่มีงบประมาณปี 2567 ใช้แต่งบประจำ แต่ในช่วง 99 วันที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ท่ามกลางสภาพปัญหาต่าง ๆ ทั้งสงคราม ภูมิอากาศ ภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้ต้องทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปด้วย จนเกิดผลงานที่จับต้องได้รวม 15 เป้าหมาย แบ่งออกได้เป็น “3 ซ่อม เพื่อช่วยลดช่องว่าง 8 สร้าง เพื่อต่อเติม และ 4 เสริม เพื่อยั่งยืน”

โดยในส่วนของ 3 ซ่อม เพื่อลดช่องว่าง ได้ทำงานช่วยให้คนตัวเล็ก ทั้งประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ลดค่าครองชีพ เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ พยุงราคาสินค้าเกษตร เสริมความเข้มแข็งในการค้าขาย โดย 1.ช่วยลดค่าครองชีพ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ทำแล้ว 5 กิจกรรมหลักทั่วประเทศ ลดสูงสุดกว่า 82% ลดค่าครองชีพไปแล้วกว่า 7,758 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 12,000 ล้านบาท 2.ช่วยเกษตรกร จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยมีมาตรการดูแลทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน และช่วยเชื่อมโยงผลผลิตไปแล้วกว่า 3,369 ล้านบาท กระจายผลผลิตกว่า 9,000 ตัน และ 3.ช่วยผู้ประกอบการอำนวยความสะดวกการค้า โดยปรับปรุงการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็ก ทรอนิกส์ การจดทะเบียนบริษัทจำกัดมหาชนออนไลน์ การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง การแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เช่น พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ร.บ.สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ร.บ.สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.หอการค้า และยังช่วยหาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 77 กิจกรรม สร้างมูลค่า 20,838 ล้านบาท รวมทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น เจรจาเรื่องใช้ลิขสิทธิ์เพลงฟรี 3 เดือน ถ้าใช้ต่อได้ส่วนลด 50-55% จัดกิจกรรมกระตุ้น Soft Power ส่งเสริมร้านอาหารไทย และการผลักดันใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นต้น

สำหรับ 8 สร้าง เพื่อต่อเติม ได้ทำการปรับฐานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในการบริหารต้นทุนการแปรรูปผลผลิต เพิ่มช่องทางการแข่งขันทางการตลาด และสร้างแต้มต่อเพื่อรองรับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดย 1.ช่วยกระจายสินค้าเกษตรผ่านช่องทางใหม่ เช่น ปั๊มน้ำมัน รถโมบาย ทำแผนดูแลผลไม้ปี 2567 ดูแลต้นทุนปุ๋ย 2.สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในการแข่งขัน เชื่อมโยงเครือข่าย SMEs ให้บริการข้อมูลเชิงลึกด้านการพาณิชย์ 3.สร้างกลไกพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์และทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันขยายตลาดไปต่างประเทศรองรับนโยบายทีมไทยแลนด์ของรัฐบาล 4.สร้างยุทธศาสตร์การค้าชายแดน ผ่านแดน ตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และ อุดรธานี

5.สร้างยุทธศาสตร์การส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ใช้นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เจาะตลาดรายมณฑลและตลาดเมืองรอง เพิ่มช่องทางการส่งเสริมสินค้าไทย ผ่านร้านอาหาร Thai Select ทั่วโลก 6.สร้างแต้มต่อทางการค้าด้วย FTA เร่งเจรจาตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยก.พ.2567 จะมีการลงนาม FTA กับศรีลังกา ส่งผลให้จีดีพีไทยเพิ่มขึ้นอีก 0.02% ต่อปี 7.สร้างอาชีพ สร้างโอกาสทางการค้าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านอาหารไทย ภาพยนตร์ เกม การท่องเที่ยวคุณภาพสูง หนังสือ แฟชั่น งานออกแบบ และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไทย และ 8.สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจด้วยนวัตกรรม โดยการเร่งรัดการจดทะเบียนสิทธิบัตรในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข และอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ภายใน 12 เดือน จากปกติ 55 เดือน

ส่วน 4 เสริม เพื่อยั่งยืน ได้ทำการเสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดย 1.เสริมกลไกเพื่อรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร อย่างครบวงจร ทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ โดยวางแผนล่วงหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ 2.เสริมยุทธศาสตร์ของหน่วยงานรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยจะปรับบทบาทการทำงานขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เช่น สร้างจุดกระจายสินค้าไทยในต่างประเทศ หรือรวบรวมสินค้าเกษตร จัดตั้งห้องเย็นส่วนกลาง 3.เสริมมาตรฐาน SMEs ไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จให้เป็นโมเดลกับรายใหม่ 4.เสริมขีดความสามารถทางการค้าไทย ทั้งการเร่งรัดการเจรจา FTA การเปิดเจรจา FTA กับประเทศใหม่ ๆ ช่วยผู้ประกอบการมีความพร้อมรับระเบียบการค้าใหม่ และทำแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2567 ผ่าน 417 กิจกรรม คาดว่าสร้างมูลค่าส่งออกกว่า 65,700 ล้านบาท รวมทั้งการเร่งรัดการค้าชายแดนและผ่านแดน

“ทั้งหมดนี้ คือ ผลงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ทำมา 99 วัน โดยการขับเคลื่อนของทีมงานพาณิชย์ ทำให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการลดค่าครองชีพ ช่วยให้ผู้ประกอบการทุกระดับได้รับการอำนวยความสะดวกที่รวดเร็ว ลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ สร้างโอกาสและอาชีพให้แก่คนตัวเล็ก นักธุรกิจรายใหม่ และเกษตรกร ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ โดยจากนี้จะมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปเพื่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย ให้ประชาชนและภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง”นายภูมิธรรมกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชื่นมื่น 'ภูมิธรรม' จับมือผู้ว่าการฯยูนนาน หนุนด่านท่าเรือกวนเหล่ย ส่งออกผลไม้-โค เข้าจีน

ชื่นมื่น“ภูมิธรรม“ จับมือผู้ว่าการฯยูนนาน หนุนด่านท่าเรือกวนเหล่ย เพิ่มมูลค่าการค้า อำนวยความสะดวก รถ-ราง-เรือ ส่งผลไม้-โค ไทยเข้าจีน

'ภูมิธรรม' ยกทีมจีนถกผู้ว่าฯ สิบสองปันนา เพิ่มตู้ส่งผลไม้ หนุนส่งออกโค

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน

”ภูมิธรรม“ ประกาศสุดยอดข้าวหอมมะลิ และข้าวสารไทยแห่งปี หนุนเกษตรกรและโรงสีรักษาคุณภาพขั้นสูง ขยายตลาดทั่วโลก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 41) และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในวันนี้ (24 เมษายน 2567)