
ธ.ก.ส. เผยผลงานปีบัญชี 2566 เติมเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบท 8.6 แสนล้านบาท ด้านการบริหาร NPLs ภาคการเกษตร ลดลงต่ำสู่ระดับร้อยละ 5.5 ทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน
2 เมษายน 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาภาคการเกษตรของไทยได้รับผลกระทบ ทั้งจากปัญหา COVID-19 ความขัดแย้งทางการค้า สงคราม สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ส่งผลโดยตรง ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ราคาสินค้าผันผวน และได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ จนทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของ ธ.ก.ส. เคยสูงถึงร้อยละ 14.64 ในปีบัญชี 2565
แต่จากการดำเนินงานตามมาตรการของรัฐบาล และในส่วนของ ธ.ก.ส. ทำให้ผลการดำเนินงานปีบัญชี 2566 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ธ.ก.ส. สามารถลด NPLs ลงมาที่ร้อยละ 5.5 โดยเป็นผลมาจากการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีการดูแลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะควบคุม NPLs ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ร้อยละ 4 ตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารในปีบัญชี 2567
ในส่วนของบทบาทหลัก ธ.ก.ส. ยังได้เติมเม็ดเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นการลงทุนภาคการเกษตรไปแล้วกว่า 859,575 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อคงเหลือ 1.69 ล้านล้านบาท เติบโตจากต้นปีบัญชี 51,736 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.16 มียอดเงินฝากสะสม 1.89 ล้านล้านบาท เติบโตจากต้นปี 58,822 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 3.22
โดยสร้างฐานการเติบโตในกลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น สลาก ธ.ก.ส. ชุด ถุงทอง วงเงิน 100,000 ล้านบาท และสลากดิจิทัล เป็นต้น มีสินทรัพย์ จำนวน 2.30 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.72 หนี้สินรวม 2.14 ล้านล้านบาท ส่วนของเจ้าของ 158,865 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ร้อยละ 12.75 สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด
ด้านการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย ให้กับเกษตรกรที่มีหนี้รวมต้นเงินคงค้างทุกสัญญา ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application ของ ธ.ก.ส. BAAC Mobile ถึง 1.84 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 92 ของจำนวนลูกค้าที่มีสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการ โดยในจำนวนลูกค้าที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเงินกู้แล้วจำนวน 1.39 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้แจ้งความประสงค์ร่วมมาตรการ และในจำนวนนี้มีลูกค้าที่แสดงความประสงค์เข้าหลักสูตรการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” แล้วจำนวน 1.3 แสนราย โดยธนาคารจะดำเนินการฟื้นฟูอาชีพให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ให้ได้จำนวน 3 แสนรายภายในเดือนกันยายน 2567 ขณะที่ มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับหนี้นอกระบบ ผ่านสินเชื่อเพื่อชำระหนี้นอกระบบ วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท จ่ายสินเชื่อไปแล้ว 545 ล้านบาท และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน 9,572 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ทั้งในและนอกระบบ เพื่อบรรเทาปัญหาและลดภาระการเป็นหนี้ในอนาคตผ่านโครงการหนี้นอกบอก ธ.ก.ส. โดยสามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบของ ธ.ก.ส. ไปแล้ว 713,013 ราย เป็นเงินกว่า 60,389 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท. ตีปี๊บ! 'ยศชนัน' เรตติ้งพุ่ง นำทัพ กทม. สมัคร 27 ธ.ค.
'ประเสริฐ' เชื่อ 'ยศชนัน' ดึงคะแนนคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้ เตรียมเปิดตัว สส. ทั้ง 500 คน 25 ธ.ค. เคลียร์ปม 'จาตุรนต์' ลาออกปธ.ยุทธศาสตร์
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม
'จุลพันธ์' หารือ 'เทวัญ' นำลูกพรรคชาติพัฒนา ย้ายซบเพื่อไทย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายร่วมกับนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา โดยระบุว่า วันนี้ผมได้พบและหารือกับท่านเทวัญ ลิปตพัลลภ
เพื่อไทยไม่หยุดประชานิยม พร้อมสานต่อดิจิทัลวอลเล็ต ยังค้างประชาชนอีก 20 ล้านคน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง ว่า เรามีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง รวมถึงมีการประเมินกระแสหลังจากที่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทั้ง 3 คนแล้วว่าเป็นอย่างไร
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย

