
กบน.เคาะขึ้นราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลราคาน้ำมันขายปลีกเป็น 30.44 บาท/ลิตร ช่วยหนุนสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
5 เม.ย. 2567 – นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้หารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลซึ่งราคาในตลาดโลกยังคงตัวอยู่ระดับสูงจากสถานการณ์ที่ยังมีความไม่สงบจากสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และสงครามในตะวันออกกลาง ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กบน. จึงพิจารณาปรับเพิ่มอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทน้ำมันดีเซล 0.20 บาทต่อลิตร จาก 4.57 บาทต่อลิตร เป็น 4.77 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร เป็น 30.44 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และตามแผนวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องดีขึ้น สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567 ติดลบ 99,821 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 52,729 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,092 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มดีเซล กบน. จะพิจารณาตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้น้ำมันดีเซล ประมาณ 71 ล้านลิตร/วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ
‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์
‘อรรถพล’ยันไฟฟ้าใต้เพียงพอสั่งสำรองน้ำมันรับมือน้ำท่วม
พลังงาน ลั่นไฟฟ้าใต้เพียงพอ แม้โรงไฟฟ้าจะนะหยุดชั่วคราว พร้อมสั่งสำรองน้ำมันช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ด้านเอ็กโก กรุ๊ปเร่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มพิกัด เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ รับมือน้ำท่วม
ORเผยไตรมาส 2/2568 มีรายได้ขายและบริการ 167,166 ล้านบาท
OR เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2568 มีรายได้ขายและบริการ 167,166 ล้านบาท ลดลง 15,256 ล้านบาท หรือ 8.4% จากไตรมาสก่อนหน้าส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ


