
9 มิ.ย. 2567 – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารไทย โดยเฉพาะเครื่องปรุงรสไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบจากท้องถิ่น สู่การส่งออกในตลาดต่างประเทศ ยกระดับรายได้ผู้ประกอบการอาหารไทย พร้อมสนับสนุนแนวทางให้แก่ผู้ประกอบไทยที่สนใจตลาดจีน พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในจีน ซึ่งตลาดที่มีผู้บริโภคชื่นชอบอาหารและเครื่องปรุงรสไทยจำนวนมาก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสไทยได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)ที่เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งระบุว่า มีผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมากที่นิยมและชื่นชอบอาหารไทย สะท้อนได้จากร้านอาหารไทยในจีนมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการร้านอาหารส่วนใหญ่มักเลือกใช้เครื่องปรุงรสไทยในการดำเนินธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากเครื่องปรุงรสของไทย มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ และมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย เช่น ในร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงตรงกับกระแสแนวโน้มเรื่องการรักสุขภาพในปัจจุบันที่สูงขึ้น
ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนมีความใส่ใจทางด้านสุขภาพและรสชาติอาหารมากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสของไทย ไปสู่ตลาดจีนเพิ่มขึ้นได้ โดยทาง สคต. ณ เมืองเซี่ยเหมินฯ ได้เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสของไทยไว้ ดังนี้ 1.เน้นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากเครื่องปรุงรสแต่ละอย่างของไทย มีกลิ่นและรสสัมผัสที่แตกต่างกัน ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 2.ควรใช้วัตถุดิบธรรมชาติในการผลิต และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี เนื่องจากผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับสุขภาพ 3.ประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลด้านวัตถุดิบที่นำมาผลิตเครื่องปรุงรส เนื่องจากเครื่องปรุงรสไทยหลายชนิดมีสมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีคุณสมบัติทางยา และบำรุงสุขภาพ นอกจากนี้ ควรมีการจำกัดปริมาณของน้ำตาลและโซเดียมในเครื่องปรุงที่ใช้ให้อยู่ในปริมาณต่ำ เพื่อให้ตรงกับเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภคชาวจีน 4.เน้นทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น เช่น บนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร (Food Intelligence Center) กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่าในปี 2566 ไทยส่งออกเครื่องปรุงรสเป็นอันดับ 6 ของโลก มูลค่า 977 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5 ปีที่ร้อยละ 7.6 โดยตลาดส่งออกเครื่องปรุงรสของไทยอยู่ใน 3 ภูมิภาคสำคัญ ได้แก่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกาเหนือ
“นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสของไทย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ด้านอาหาร ที่สามารถขยายตลาดการส่งออกได้มากขึ้น ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องปรุงไทย ทั้งช่วยชูรสชาติ สร้างความกลมกล่อม และเสริมสีสันให้อาหาร รวมทั้ง หลากหลายเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค ทั้งนี้ จีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการหากได้รับการผลักดันและส่งเสริมให้เติบโต และแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ” นายชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คาดส่งออก‘กุ้งไทย’ปี69 ฟื้นรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่ง
ผู้เลี้ยงกุ้งไทยรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่งอินเดียอ่วม 60% คาดส่งออกปี 69 ฟื้น วอนรัฐเร่งแก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพ 4 แสนตัน พร้อมแนะผู้เลี้ยงมุ่งสู่มาตรฐานกุ้งยั่งยืน ASC
ส่งออกเดือนต.ค.ขยายตัว5.7%ลุ้นทั้งปีโต11.4%
ส่งออกไทยเดือน ต.ค.68 มูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 5.7% โตต่อเนื่อง 16 เดือนติด รวม 10 เดือน มูลค่า 282,982.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 13% คาด 2 เดือนที่เหลือยังส่งออกเพิ่ม ประเมินเดือนละ 2.5-2.6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ทำยอดทั้งปีโต 10.7-11.4% เกินเป้าหมายแน่นอน ส่วนเป้าปี 69 กำลังประเมิน คาดได้ตัวเลข ธ.ค.68 แนวโน้มยังเป็นบวก แต่ชะลอตัวลงจากปี 68


