
‘สุริยะ’สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อหาเท็จจริงเหตุอุโมงค์รถไฟไฮสปีดถล่ม ย้ำผู้รับเหมาต้องไม่เกิดขึ้นอีก หากเกิดซ้ำโดนบทลงโทษขั้นสูงสุด ขณะที่การช่วยเหลือคนงาน เร่งสอดท่ออากาศที่ใช้ปั๊มออกซิเจนเข้าไปภายในบริเวณที่คนงานติดอยู่ ก่อนสอดท่อช่วยชีวิต
26 ส.ค.2567-นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินถล่มบริเวณอุโมงค์ในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยจากการตรวจสอบ และได้รับรายงานพบว่า จุดเกิดเหตุนั้นมีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งในขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานทำผนังอุโมงค์ และมีฝนตกสะสม จึงทำให้ดินหนัก ส่งผลให้ทราย และเศษปูนไหลร่วงลงมา
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ปฏิบัติงานติดอยู่ภายในอุโมงค์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.หูเสียงหมิ่น เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน) 2.ตงชิ่นหลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ขับแม็คโคร) และ 3.แรงงานชาวพม่า ไม่ทราบชื่อ (ผู้ขับรถบรรทุก) โดยขณะนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยการอัดท่อเข้าไปภายในอุโมงค์ เพื่อเพิ่มอากาศด้านล่างที่มีดินถล่มทับ และหลังจากนั้นจะใช้ท่อที่มีความกว้าง 1.2 เมตร อัดอากาศเข้าไปอีก เพื่อให้มีอากาศหายใจ รวมถึงเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถลงไปด้านล่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์อย่างเต็มที่ และเร่งด่วน
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์สำเร็จ นอกจากนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบสัญญาจ้างต่าง ๆ อย่างละเอียด ขณะเดียวกันจะจัดทำสมุดพกตัดคะแนนผู้รับเหมา ซึ่งจะส่งผลต่อการเข้าร่วมประมูลงานอื่น ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำว่า เหตุการณ์ต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกอย่างเด็ดขาด หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำจะมีบทลงโทษขึ้นสูงสุดต่อไป เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการที่ดูแลรับผิดชอบโครงการฯ มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยสูงสุด
ขณะที่โครงการอื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคมนั้น จะคุมเข้มเรื่องการกลั่นกรองผู้รับเหมามากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่มีความซับซ้อน และโครงการที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญครอบคลุมในทุกมิติ อีกทั้งการเข้าประมูลงานของรัฐนั้น ไม่ใช่เพียงว่าเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษจะสามารถเข้าร่วมประมูลได้ แต่จะมีการตรวจสอบเชิงเทคนิคของบริษัทที่จะเข้ารับงานอย่างละเอียด และต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย รวมถึงต้องไม่เกิดเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้วย
“กระทรวงคมนาคมจะเข้มงวด และตรวจสอบทุกโครงการอย่างละเอียด โดยเฉพาะด้านเทคนิค ด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องไม่เกิดเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อพี่น้องประชาชน จะมีการเข้าตรวจสอบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน และในขณะทำงาน รวมถึงหลังจากงานแล้วเสร็จอย่างละเอียด” นายกฤชนนท์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ยศชนัน' ควง 'สุริยะ' ร่ายยาวขายฝันสภาอุตฯ
'ยศชนัน' ควง 'สุริยะ' พร้อมผู้บริหารเพื่อไทย เข้าพบ ส.อ.ท. หารือแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต ชี้หากทุกพรรคมองเป้าหมายเดียวกัน จะเห็นใครหวังดี ให้ประเทศไปข้างหน้า
'เพื่อไทย' ถกเข้มยุทธศาสตร์เลือกตั้งวางคิวหาเสียง
'เพื่อไทย' ถกเข้มหลังเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ วางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง-กำหนดคิวลงพื้นที่หาเสียง
“พิพัฒน์” เปิดชุดของขวัญปีใหม่คมนาคม 2569 มอบ3 ความสุขใหญ่ H-N-Y ให้คนไทย ครบทั้งอุ่นใจ สะดวก และปลอดภัย ทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบ “ของขวัญปีใหม่ 2569” จากกระทรวงคมนาคม ภายใต้แนวคิด “H.N.Y
‘พิพัฒน์’ ห่วงใยพี่น้องภาคใต้ตอนล่าง สั่งคมนาคมเร่งสำรวจความเสียหาย วางแผนซ่อมถนน เพิ่มประสิทธิภาพทางน้ำ รับมือฝนที่ยังยาวถึงต้นปี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนฟ้าอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยระบุว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นภูมิภาคที่ “เข้าสู่ฤดูฝนช้าที่สุดของประเทศ” และมักมีระยะเวลาฝนตกยาวนานไม่น้อยกว่าสองเดือน แตกต่างจากจังหวัดอื่นที่เข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว
“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ปัตตานี ชื่นชมฟื้นตัวเร็ว ยันรัฐบาลเร่งเยียวยา–เตรียมพร้อมมาตราการรับฝนรอบใหม่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์หลังอุทกภัย โดยการกำชับจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลพี่น้องที่ประสบภัยทุกครัวเรือนอย่างเต็มที่

