Webull เปิดโอกาสให้คนไทยเทรดหุ้นสหรัฐ

Webull โบรกเกอร์ชั้นนำสัญชาติสหรัฐฯรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตการให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไทย ด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 40 ล้านครั้ง และให้บริการแก่บัญชีผู้ใช้งานที่จดทะเบียนมากกว่า 20 ล้านบัญชี ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดย Webull มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการลงทุนไทยอย่างแข็งแกร่ง ในฐานะโบรกเกอร์ออนไลน์รายแรกของไทย ที่มีการนำเสนอฟีเชอร์ใหม่ ในหลากหลายรูปแบบก่อนใคร ตั้งเป้าจะมีการเปิดบัญชีแอ็กทิฟ ในประเทศไทยเป็นจำนวน 200,000 บัญชี เป็นอย่างน้อย ภายในระยะเวลา 2-3 ปี 

16 ก.ย. 2567 – นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือ “Webull Thailand”   เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งในด้านศักยภาพ และอัตราผลตอบแทน ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากนักลงทุนทั่วโลกได้หลั่งไหลเข้าไปในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก รวมถึงคนไทยที่มีมากถึง 1 ล้านรายที่นำเงินเข้าไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ จากกลุ่มคนไทยที่มีความรู้และความเข้าใจในสินทรัพย์การลงทุนที่มีมากถึง 2.6 ล้านคน  ทาง Webull  ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเปิดโลกการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้แก่คนไทยมากขึ้น  หลังจากได้ขยายตลาดไปภูมิภาคต่างๆทั่วโลก รวม 13 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น เม็กซิโก แคนาดา อินโดนีเซีย  และในปีนี้มีการเปิดตัวในประเทศไทย และมาเลเซีย  

ทั้งนี้ Webull  ถือเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์สหรัฐฯ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2561 ผ่านการบริหารงานโดย แอนโทนี เดเนียร์ ประธานกลุ่ม วีบูลล์ คอร์ปอเรชัน และ วีบูลล์ ยูเอส ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ พร้อมให้บริการนักลงทุนด้วยมาตรฐานทางการเงินแบบเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการขยายธุรกิจมายังประเทศไทยในครั้งนี้ เราพยายามที่จะเป็นแพลตฟอร์มทางเลือกสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ ด้วยการสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย เพื่อให้คนไทยสามารถบริหารจัดการกับเป้าหมายทางการเงินของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น 

โดย Webull ถือเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำสำหรับการเทรดหุ้นสหรัฐฯ รายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์” (ก.ล.ต.) รวมทั้งยังมีจุดแข็ง และความพิเศษที่จะเข้ามาตอบโจทย์นักลงทุนไทยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกมากมาย เช่น การอัปเดตราคาสินทรัพย์แบบเรียลไทม์ หรือการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ พร้อมกับบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และไทยบาท ที่นักลงทุนสามารถใช้บริการได้ตลอดทุกช่วงเวลา เป็นต้น

ซึ่งทั้งหมดนี้ Webull มีการเก็บอัตราค่าคอมมิชชันที่อยู่ในระดับต่ำ เพียง 0.10% เท่านั้น   นอกเหนือจากนี้ Webull ได้มีการเปิดตัวโปรโมชัน “ค่าคอมมิชชัน 0%” อย่างเป็นทางการ สำหรับนักลงทุนรายย่อยชาวไทยทุกคน เพื่อให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการมาตรฐานระดับนานาชาติได้ง่ายขึ้น จุดประสงค์หลักในการจัดโปรโมชันฟรีค่าคอมมิชชันของ Webull ครั้งนี้ ก็เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยชาวไทย สามารถเข้าถึงบริการเครื่องมือการลงทุนแบบมืออาชีพ และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้มากยิ่งขึ้น บนแพลตฟอร์มการซื้อขายดิจิทัลที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด

โดยเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567  Webull ได้จัดงานสัมมนาพิเศษ  Webull  “คว้าโอกาส และจัดการความเสี่ยงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ” โดยได้มีการเชิญพันธมิตรด้านการลงทุนอย่าง S&P Dow Jones Indices นำโดย ทิม เอ็ดเวิร์ดส์ พีเอช.ดี. หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในดัชนี ที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมอง และร่วมวิเคราะห์ กับโอกาสของนักลงทุนไทยในตลาดสหรัฐฯ ณ เวลานี้และในฐานะโบรกเกอร์ออนไลน์รายแรก ของประเทศไทยที่ให้บริการซื้อขายสัญญาออปชันดัชนี Webull จึงได้มีการเชิญ ชารอน อัง ซีเอฟเอ หัวหน้าฝ่ายขายตราสารอนุพันธ์ระดับโลก ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก Cboe (Chicago Board Options Exchange) ซึ่งเป็นตลาดสัญญาออปชันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มาแลกเปลี่ยนความรู้ในประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัญญาออปชัน ทั้งในเรื่องของการให้ความรู้เกี่ยวกับองค์กร Cboe, การอธิบายถึงแนวโน้ม และปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดตราสารอนุพันธ์สหรัฐฯ, การแนะนำรูปแบบสัญญาออปชันที่หมดอายุในวันเดียว (0DTE), รวมถึงแผนในการให้ความรู้เรื่องสัญญาออปชันต่อนักลงทุนรายย่อย และแผนการในอนาคตต่อประเทศไทย   และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานสัมมนา คือโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้เปิดบัญชีกับทาง Webull รับโปรโมชันค่าคอมมิชชัน 0% ในช่วง 90 วันแรกทันทีหลังการเปิดบัญชีสำเร็จ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 17:00 น. ถึง 31 ตุลาคม 2567 เวลา 16:59:59 น. (ตามเวลาประเทศไทย) 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บลจ.กรุงศรี' คัดกองทุนเด่น ชวนลูกค้าวางแผนการเงินรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี

บลจ.กรุงศรี คัดสรร SSF/RMF/Thai ESG มาแนะนำ ครบทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมหลายสินทรัพย์ หุ้นไทย และกองทุนหุ้นสไตล์ defensive ซึ่งเหมาะกับการลงทุนยาว ตอบโจทย์ทุกสภาวะการลงทุนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี