
“สุริยะ” สั่งปรับแผนพัฒนา “รถไฟฟ้าเชียงใหม่” ศึกษาสร้างอุโมงค์เขตพื้นที่เมืองเก่า ก่อนยกระดับในเขตนอกเมือง ยอมรับงบประมาณลงทุนอาจปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นทางออกเคลียร์ปมกระทบโบราณสถาน และเคลื่อนโครงการตอกเสาเข็มได้
30 ก.ย. 2567 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการลงทุนระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลเดินหน้าตามแผนแล้ว กระทรวงฯ จึงอยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาโครงการระบบรถไฟฟ้าในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีแผนพัฒนาในจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก และนครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ประเมินว่าโครงการรถไฟฟ้าในภูมิภาคสายแรกที่ต้องเร่งพัฒนา คือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีการจราจรติดขัดอย่างมาก อีกทั้งหากมีการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ นอกเขตเมือง การเดินทางของประชาชนในพื้นที่จะสะดวกขึ้น ลดความแออัดในเขตเมือง
ทั้งนี้ทราบว่าปัจจุบันยังมีประเด็นข้อกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโบราณสถานในพื้นที่เขตเมือง กระทบภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว ตนจึงมีแนวคิดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าให้เป็น 2 รูปแบบ โดยในพื้นที่เขตเมืองให้พัฒนาเป็นอุโมงค์ใต้ดิน และนอกเขตเมืองให้พัฒนาเป็นรถไฟฟ้าตามแผนที่ศึกษาไว้
“เมื่อโครงการมีข้อกังวลเราก็ต้องกลับมาดูปัญหา ซึ่งหากพัฒนาเป็นอุโมงค์ในช่วงเขตเมือง ก็จะช่วยลดข้อกังวลผลกระทบแหล่งท่องเที่ยว และยังทำให้การจราจรสามารถสัญจรได้ตามปกติ ส่วนพื้นที่นอกเขตเมืองก็สามารถพัฒนาตามแผนเดิม เชื่อว่าหากปรับแผนเป็นลักษณะนี้จะสามารถเดินหน้าโครงการได้”นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า แม้ว่างบประมาณการลงทุนจะต้องปรับเพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างงานอุโมงค์รถไฟฟ้า แต่หากสามารถทำให้โครงการนี้เดินหน้าได้ทันที เพื่อแก้ไขปัญหาการเจรจาและสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวนอกเขตเมืองอย่างสะดวก ก็จะเป็นประโยชน์คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยเบื้องต้นประเมินว่าการศึกษาเรื่องนี้ไม่น่าจะใช้เวลานาน คาดว่าปี 2568 น่าจะได้เห็นความชัดเจน
สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ (สายสีแดง) ก่อนหน้านี้ รฟม.ศึกษาพัฒนาแนวเส้นทางช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคีระยะทางประมาณ 15.8 กิโลเมตร ประเมินวงเงินลงทุน 29,523.29 ล้านบาท โดย รฟม.ศึกษาพัฒนาระบบรถรางไฟฟ้า (LRT/Tram) มีสถานีให้บริการ 16 สถานี สถานะปัจจุบัน รฟม.ยืนยันเดินหน้าพัฒนาโครงการ อยู่ในขั้นตอนยื่นรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ (EIA) ให้คณะผู้ชำนาญการฯ พิจารณา
นอกจากนี้ รฟม.ยังกำหนดแผนดำเนินโครงการเบื้องต้น แบ่งเป็น ปี 2568 – 2569 พิจารณารูปแบบการลงทุนโครงการที่เหมาะสม หลังจากนั้นในปี 2569 เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรูปแบบการลงทุน ส่วนในปี 2570 – 2571 จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนลงทุนโครงการ (PPP) และในปี 2571 เริ่มงานก่อสร้าง เพื่อเปิดให้บริการในปี 2574
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี จะมีสถานีให้บริการรวม 16 สถานี ประกอบด้วย สถานีโรงพยาบาลนครพิงค์ สถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ สถานีสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี สถานีศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ สถานีแยกหนองฮ่อ สถานีโพธาราม สถานีข่วงสิงห์ สถานีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สถานีขนส่งช้างเผือก สถานีมณีนพรัตน์ สถานีประตูสวนดอก สถานีแยกหายยา สถานีแยกท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ สถานีท่าอากาศยานเชียงใหม่ สถานีบ้านใหม่สามัคคี และสถานีแม่เหียะสมานสามัคคี
นอกจากนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) 2 แห่ง บริเวณจุดเริ่มต้นโรงพยาบาลนครพิงค์ รองรับรถยนต์ได้ 1,600 คัน และรถจักรยานยนต์ 800 คัน และบริเวณสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ รองรับรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 1,200 คัน และรถจักรยานยนต์ 2,800 คัน อีกทั้งยังมีศูนย์ซ่อมบำรุงบริเวณแยกหนองฮ่อ พัฒนาบนพื้นที่ 25 ไร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ยศชนัน' ควง 'สุริยะ' ร่ายยาวขายฝันสภาอุตฯ
'ยศชนัน' ควง 'สุริยะ' พร้อมผู้บริหารเพื่อไทย เข้าพบ ส.อ.ท. หารือแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต ชี้หากทุกพรรคมองเป้าหมายเดียวกัน จะเห็นใครหวังดี ให้ประเทศไปข้างหน้า

