เอสซีจี รุกหนักขยายลงทุนในเวียดนาม วางเป้ายอดขายโต 10% ในปี 65

อสซีจี ตั้งเป้ายอดขายปี’65 โต 10% ตั้งงบลงทุน 8 หมื่นล. ทุ่มโครงการปิโตรเวียดนาม 40% พร้อมโชว์กำไรปี 64 ทะลุ 4.7 หมื่นล้านบาท โต 38% รับอานิสงส์ทุกธุรกิจฟื้น

28 ม.ค. 2565 นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่าปี 2565 เอสซีจีตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10% จากปี 2564 ที่ผ่านมามีรายได้จากการขาย 530,112 ล้านบาท โดยประเมินจากภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ที่น่าจะมีกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น จากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ ราคาเชื้อเพลิง ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดทั่วโลก รวมทั้งต้นทุนการเงินสูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ภาคธุรกิจต้องเตรียมรับมือ

“ปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP 1) ประเทศเวียดนาม 40% ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 90% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิต (ซีโอดี) ได้ในช่วงกลางปี 2566 ส่วนงบลงทุนอีก 60% จะใช้ในการแสวงหาแหล่งการเติบโตใหม่จากทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในองค์กร และการควบรวมกิจการต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจที่การวางแผนไว้ โดยยังไม่มีแผนการลงทุนตั้งโรงงานในอินเดีย เพียงแต่มีการส่งสินค้าไปจำหน่าย”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของเอสซีจี ประจำปี 2564 มีกำไร 47,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% มีรายได้จากการขาย 530,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33% โดยเป็นมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services – HVA) 182,510 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของยอดขายรวม มีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ 15% และบริการเซอร์วิส โซลูชั่น 5% ของยอดขายรวม

โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เป็นผลจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่วนใหญ่มาจากราคาและปริมาณขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากธุรกิจเคมิคอลส์ปี 2564 มีกำไร 28,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขาย 238,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 62% เนื่องจากราคาและปริมาณขายสินค้าสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ปี 2564 มีกำไร 4,262 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34% มีรายได้จากการขาย 182,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากมียอดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ นอกภูมิภาคอาเซียนและความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้างภายในประเทศตามงานปรับปรุงและซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้น

ธุรกิจแพคเกจจิ้งของเอสซีจีแพคเกจจิ้ง(เอสซีจีพี) ปี 2564 มีกำไร 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28% มีรายได้จากการขายเท่ากับ 124,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากการเติบโตของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในกลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก การเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบขยายกำลังการผลิต และการควบรวมกิจการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ช้างศึก'ได้แค่เหรียญเงิน ฟอร์มดี45นาทีแรกนำเวียดนาม2-0 ก่อนแผ่วโดนตีเสมอและแพ้ช่วงต่อเวลา2-3

วันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การแข่งขันฟุตบอลชาย ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย พบกับ เวียดนาม

'โค้ชวัง'เผยดีที่ชิงกับเวียดนาม ทีมชั้นนำของอาเซียน ตั้งเป้าเหรียญทองเท่านั้น

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ฝ่ายจัดซีเกมส์ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม การแถลงข่าวครั้งนี้ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย นำโดย ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วย ชนภัช บัวพันธ์

'JAS'คว้าลิขสิทธิ์ยิงสด 'พรีเมียร์ลีก'ที่เวียดนาม ลงนามร่วมกับ'FPT Play'

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้ลงนามในข้อตกลงการถ่ายทอดสดเพื่อครอบครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพและเสียงของพรีเมียร์ลีกแต่เพียงผู้เดียวในประเทศเวียดนาม ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ JAS ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกและเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กัมพูชา และลาว โดยมี Monomax เป็นแพลตฟอร์มหลักในการถ่ายทอดสด

'อรรถกร'ให้กำลังใจเบสบอล พร้อมขอโทษนักกีฬาเวียดนามลาว ปมเหตุเพลงชาติไม่ดัง

อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รุดให้กำลังใจและเชียร์ทัพเบสบอลไทย ทำศึกซีเกมส์ 2025 ขณะเดียวกันถือโอกาสขอโทษทัพนักกีฬาเวียดนาม และสปป.ลาว กับความผิดพลาดเรื่องเสียงเพลงชาติที่ไม่ดัง ในเกมฟุตบอลชายซีเกมส์