‘เผ่าภูมิ’ ขีดเส้น มี.ค. 68 เดินเครื่องชง NaCGA เข้า ครม. ปั้นเป็นสถาบันค้ำประกันเครดิต-ออกหุ้นกู้ หนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อในระบบ พร้อมคาดกฎหมายแล้วเสร็จภายในปีนี้ ก่อนลุยควบรวม บสย. ลดการทำงานซ้ำซ้อน
4 มี.ค. 2568 – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. …. เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ หรือ National Credit Guarantee Agency : NaCGA ประกอบด้วย 8 หมวด 132 มาตรา ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักของเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยขณะนี้ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้ว และคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน มี.ค. 2568 โดยคาดว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ได้ภายในปีนี้
“หลังจากฎหมายมีผลบังคับใช้ จะมีระยะเวลาประมาณ 1 ปีในการควบรวม NaCGA กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้ำประกันสินเชื่อ และลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน โดยในช่วงแรก บสย. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของ NaCGA หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ถ่ายโอน ทรัพย์สิน กำลังคน และหนี้สิน มาสู่ NaCGA อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ NaCGA กลายเป็นกลไกหลักในการค้ำประกันสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป” นายเผ่าภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ NaCGA จะเป็นการกลไกสำคัญยกเครื่องการปล่อยสินเชื่อไทย เพิ่มอำนาจต่อรองให้ผู้ประกอบการ ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมกับความเสี่ยงรายบุคคล โดย NaCGA จะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จะทำหน้าที่ในการประเมินความเสี่ยงและค้ำประกันเครดิตให้ลูกหนี้ โดย NaCGA จะค้ำประกันครอบคลุมถึง Non-Bank และการออกหุ้นกู้ของเอสเอ็มอี แต่จะไม่นับรวมบริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันยืนยันว่าการค้ำประกันดังกล่าวจะไม่ถูกนับเป็นหนี้สาธารณะ และไม่ขัดกับกฎหมายหนี้สาธารณะแต่อย่างใด
สำหรับกลไกการทำงานของ NaCGA คือ1. ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อติดต่อ NaCGA เพื่อให้พิจารณาค้ำประกันเครดิตให้กับตัวเอง ก่อนไปยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน 2. NaCGA จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ประกอบการ ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงรายบุคคล การค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) โดยใช้ฐานข้อมูลและแบบจำลองความเสี่ยงด้านเครดิตที่ NaCGA จัดทำขึ้นจากข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทางเลือก
3. NaCGA จะออกใบค้ำประกันเครดิตให้กับผู้ขอสินเชื่อ โดยผู้ขอสินเชื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยตามความเสี่ยง เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และสถาบันการเงินที่ร่วมจ่าย4. ผู้ขอสินเชื่อนำใบค้ำประกันเครดิตที่ได้ไปยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน5. สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อ เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อมี NaCGA เป็นผู้รับประกันความเสี่ยงด้านเครดิตแทนบางส่วนหรือทั้งหมดแล้ว และ6. หากผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ NaCGA จะเป็นผู้รับความเสี่ยงกับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข ส่วนแหล่งเงินทุนของ NaCGA จะมาจากเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ เงินสมทบจากธนาคารเป็นรายปี คิดเป็นสัดส่วนตามสินเชื่อธุรกิจ และเงินสมทบจาก Non-Bank ที่เลือกใช้บริการ NaCGA
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดให้ ธปท. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมที่ดิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม นำส่งข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนเพื่อจัดทำแบบจำลองเครดิต (Credit Risk Model) ให้ NaCGA
อย่างไรก็ดี NaCGA นั้นจะบริหารด้วยระบบคณะกรรมการ 2 คณะ ได้แก่ 1. คณะกรรมการกำกับนโยบาย มี รมว.การคลัง เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของ NaCGA และ 2. คณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ด้านบัญชี ด้านกฎหมาย ด้านเทคโนโลยี ด้านสถิติ ด้านธุรกิจเอสเอ็มอี และด้านตลาดทุน มีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแลการดำเนินงานของ NaCGA
