'เผ่าภูมิ' เดินเครื่องนโยบายปราบของเถื่อน สั่งเข้มสรรพสามิตตรึงพื้นที่ชายแดนตะวันตก

‘เผ่าภูมิ’ สั่งเข้มสรรพสามิตตรึงพื้นที่แนวชายแดนตะวันตก จ.กาญจนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ และช่องทางออนไลน์ ลุยปราบสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี ขับเคลื่อนนโยบาย Zero Tolerance โชว์ผลงานภาค 7 ปราบของเถื่อนกระหึ่ม 1,254 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 28.26% ‘บุหรี่-สุรา’ มาแรงสุด

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวในการลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด ภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้  มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนแนวทางการปฏิบัติงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเร่งรัดปราบปรามบุหรี่เถื่อน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตอย่างแพร่หลาย ผ่านการลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดนและนำมาจำหน่ายในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์

โดยเมื่อวันที่  4 พ.ค. 2568 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 ได้รับรายงานว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่จากพื้นที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรี ผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะที่เรียกว่ากองทัพมด ซึ่งเป็นการลำเลียงนำสินค้าเข้ามาในปริมาณน้อยแต่ทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จากการสืบสวนและเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางบุหรี่ที่มิชอบด้วยกฎหมายได้ จำนวนทั้งสิ้น 35,250 ซอง แบ่งเป็นบุหรี่ตรากรองทิพย์ 90 (FOR EXPORT ONLY) ซองอ่อน จำนวน 30,000 ซอง, บุหรี่ตรากรองทิพย์ 90 (FOR EXPORT ONLY) ซองแข็ง จำนวน 5,150 ซอง และบุหรี่ต่างประเทศตรา D&J จำนวน 100 ซอง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางภาษีและค่าปรับรวม 4,707,894.48 บาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลและแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่าเส้นทางการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1. การลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศผ่านทางไปรษณีย์จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีนักท่องเที่ยว ลักลอบนำติดตัวเข้ามาในประเทศเกินกว่าที่กฎหมายอนุญาต 2. การลักลอบนำเข้าบุหรี่ในประเทศ เช่น กรองทิพย์ 90 (FOR EXPORT ONLY) ผ่านช่องทางธรรมชาติในลักษณะกองทัพมด ซึ่งมีการรวบรวมไว้ในปริมาณมาก ก่อนลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ            เพื่อนำออกจำหน่ายต่อไป

“การขับเคลื่อนภารกิจภายใต้นโยบาย “Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์ เป็นการดำเนินการอย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานด้านความมั่นคง ด่านศุลกากร รวมถึงบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้กระทำความผิด เส้นทางการลักลอบขนส่งสินค้า เพื่อตัดวงจรการขนส่งสินค้าผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการยกระดับประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ” นายเผ่าภูมิ กล่าว

สำหรับผลจากการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67 – มี.ค.68) สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด สามารถปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายได้รวมทั้งสิ้น 1,254 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  28.26% คิดเป็นค่าปรับ 51.49 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 148.06 ล้านบาท ทั้งนี้ คดีที่พบมากที่สุด คือ คดียาสูบ คิดเป็น 57.34% รองลงมา คือ คดีสุรา คิดเป็น 32.78% โดยจำแนกเป็น 1. ยาสูบ จำนวน 719 คดี ค่าปรับ 29.88 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 142.68 ล้านบาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นยาสูบในประเทศ  75,289 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 73,367 ซอง 2. สุรา จำนวน 411 คดี ค่าปรับ 6.40 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 777,600.50 บาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นสุราในประเทศ  5,702.810 ลิตร และสุราต่างประเทศ 552.640 ลิตร

3. น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 12 คดี ค่าปรับ 800,166.00 บาท ประมาณการค่าปรับ 4.58 ล้านบาท จำนวนของกลาง 91,082 ลิตร 4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 34 คดี ค่าปรับ 810,166.00 บาท จำนวนของกลาง 1,286 คัน 5. ไพ่ จำนวน  35 คดี ค่าปรับ 190,668.00 บาท ประมาณการค่าปรับ 24,804.00 บาท จำนวนของกลาง 893 สำรับ 6. รถยนต์ จำนวน 7 คดี ค่าปรับ  315,306.11 บาท จำนวนของกลาง 348 คัน 7. เครื่องหอมและเครื่องสำอาง จำนวน 14 คดี ค่าปรับ 884,373.08 บาท จำนวนของกลาง 4,445 ขวด 8. เครื่องดื่ม จำนวน 15 คดี ค่าปรับ 119,675.50 บาท จำนวนของกลาง 2,077.04  ลิตร และ 9. แบตเตอรี่ จำนวน 7 คดี ค่าปรับ 12,101,174.23 บาท จำนวนของกลาง 36,716 ก้อน

อย่างไรก็ดี รมช.การคลัง ยังได้สั่งการให้สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 รวมถึงสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ในสังกัด ได้ขับเคลื่อนภารกิจภายใต้นโยบาย “สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์” อย่างจริงจัง โดยตรึงพื้นที่กาญจนบุรี ตามแนวชายแดนตะวันตก บริเวณด่านบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง และจุดนำเข้าก๊าซธรรมชาติ บ้านอิต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จุดผ่อนปรนทางการค้าชั่วคราว 1 ช่องทาง คือ ด่านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี และช่องทางบ้านต้นยาง อำเภอสังขละบุรี, ตรึงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณด่านพรมแดนสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และตรวจช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่องทางนี้สินค้าจะส่งมาทางภาคใต้ จะส่งมาทางบริษัทขนส่ง

เพิ่มเพื่อน