
‘ชบา บางกอก’ ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี พร้อมปรับแพคเก็จจิ้งใหม่ ลุยตลาดน้ำผลไม้-โอ๊ตมิลค์ ชูคอนเซ็ปต์ ‘Made from happy fruits’ เจาะคนรุ่นใหม่สายสุขภาพ ตั้งเป้าเดินเกม 3-5 ปีขยายฐานตลาดในไทย เจาะตลาดกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
28 พ.ค. 2568 – นายกันต์ กุลปิยะวาจา ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ชบาบางกอก จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มคุณภาพระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนกลยุทธ์การตลาดและทิศทางของแบรนด์ครั้งใหญ่ ในรอบ 25 ปี สำหรับแบรนด์นมโอ๊ต Goodmate กับคอนเซ็ปต์ ‘ชีวิตกู๊ดได้อีก’ และ น้ำผลไม้ Chabaa ภายใต้แนวคิด “Made from happy fruits” เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลตัวเองกันมากขึ้น รวมทั้งสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับพอร์ตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในตลาดประเทศไทย และต่างประเทศ
โดยการรีแบรนด์ในครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับ 4 หัวใจหลัก ได้แก่ 1. ปรับแพคเกจจิ้งใหม่ 2. เปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์ “ณเดช คูกิมิยะ” และ “หลิงหลิง คอง” 3. ทุ่มงบสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณา และ 4. ตอกย้ำนวัตกรรมการผลิต โอ๊ตมิลค์ ที่ยังคงคุณภาพและมาตรฐานเดิมของ Goodmate ไว้ได้อย่างครบถ้วน
“เรามีความเชื่อว่า สุขภาพที่ดีไม่ควรเป็นเรื่องยาก และทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึงสิ่งที่ดีที่สุดจากธรรมชาติในทุกวัน ดังนั้นแนวคิดของการปรับโฉมรูปแบบและกำหนดทิศทางของแบรนด์ครั้งใหญ่นี้จะสะท้อนภาพลักษณ์ของ แบรนด์ที่เป็น Fashionable นำสมัยมากขึ้น ภายใต้แนวคิด Made from happy fruits สำหรับแบรนด์ Chabaa และ พร้อมตอกย้ำเป้าหมายของแบรนด์ Goodmate ในการเปลี่ยนใจผู้บริโภคให้รักเราในความเป็น ‘นมทางหลัก’ ไม่ใช่ ‘นมทางเลือก’ ภายใต้แคมเปญ ‘กู๊ดเมท ชีวิตกู๊ดเกิน” นายกันต์ กล่าว
นายกันต์ กล่าวว่า ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการรีเฟรชแบรนด์ Chabaa มีการปรับแพคเกจจิ้งที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ยุคใหม่ พร้อมเสริมภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “น้ำผลไม้ของคนเอาแต่ใจ…ใส่” โดยได้ “หลิงหลิง คอง” นักแสดงสาวชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ แบรนด์ Goodmate เป็นแบรนด์นมทางเลือกเบอร์หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อใจคนไทย อ้างอิงจากผลสำรวจจาก Top Influential Brands ปี 2024 ที่ผ่านมา (Neo target) และเป็นนมที่ได้รสสัมผัสเทียบเท่านมวัวมากที่สุด ซึ่งการเปิดตัวแคมเปญแบรนด์ในครั้งนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ “ชีวิตกู๊ดได้อีก” โดยมี “ณเดช คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย จริงใจ และมั่นใจในคุณภาพ โดยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยให้หันมาใส่ใจสุขภาพ พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงภาพลักษณ์แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตเพื่อความยั่งยืนของโลกใบนี้ (Sustainability Concept)
ล่าสุดนมข้าวโอ๊ต (Oat Milk) กู๊ดเมท มีรสชาติตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่น สูตร Zero Sugar ที่เป็นนวัตกรรมในการผลิตที่สามารถดึงน้ำตาลออกจากโอ๊ต แต่ยังคงวิตามินต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนเหมือนเดิม และยังมีแผนต่อยอดรสชาติใหม่เพื่อขยายฐานการเติบโตของนมทางเลือก ด้วยการเตรียมเปิดตัวนมโอ๊ตโปรตีนสูงแบรนด์แรกของประเทศไทย หวังเจาะตลาดของคนกลุ่มใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ
ทั้งนี้ ตลาดนมข้าวโอ๊ตถือเป็นตลาดนมทางเลือกที่ Goodmate มองว่ามีการเติบโตมากที่สุดในตลาด Plant-Based Milk ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมที่ 1,399 ล้านบาท และอัตราการเติบโต 41% ในปี 2024 ซึ่งเป้าหมายสำคัญของแบรนด์ Goodmate ให้ความสำคัญในปีนี้ คือ การพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมใหม่เพื่อสนับสนุนสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค พร้อมทั้งการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างการยอมรับและนำไปสู่การเปลี่ยนใจผู้บริโภคให้รักเราในความเป็น “นมทางหลัก” ที่ไม่ใช่ “นมทางเลือก”
สำหรับแพคเกจจิ้ง และคอนเซ็ปต์ใหม่นั้นจะสื่อสารผ่าน โฆษณา (TVC) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ยุคใหม่ และเสริมภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขึ้นให้กับทั้ง Chabaa และ Goodmate” ซึ่งแนวทางการสื่อสารแบรนด์ของทั้ง Chabaa และ Goodmate ยังคงตอกย้ำในมาตรฐานและกระบวนการผลิตในระดับสูง การคัดเลือกวัตถุดิบจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทุกกล่องที่ผู้บริโภคเลือกนั้นสามารถดื่มแล้วมั่นใจได้เสมอ
“เราไม่อยากเป็นเพียงทางเลือกที่ถูกที่สุด แต่อยากเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับสุขภาพในระยะยาว จึงได้วางกลยุทธ์ราคาที่เป็นความคุ้มค่าอย่างแท้จริง โดยไม่ลดคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในราคาที่สมเหตุสมผล และสอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน”
นอกจากการรีแบรนด์ และเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดเพื่อสื่อสารแบรนด์ในภาพลักษณ์ใหม่ดังกล่าวแล้ว คุณกันต์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นสร้างการขยายตัวทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการส่งมอบสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภคทุกคน โดยที่ไม่จำกัดเฉพาะในประเทศไทย แต่วางแผนถึงการเติบโตในระดับภูมิภาคและทั่วโลก ภายใต้แผนพัฒนาธุรกิจ 3–5 ปีต่อจากนี้
โดยเร่งขยายการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV, เกาหลีใต้, จีน, ฮ่องกง, สิงค์โปร์ และตะวันออกกลาง เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้สัมผัสรสชาติและคุณภาพจากธรรมชาติแบบไทยๆ
นอกจากนี้ เตรียมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกช่วงเวลาในชีวิต (Lifetime Value) เช่น ขนมขบเคี้ยวจากข้าวโอ๊ต หรือเครื่องดื่มเสริมโปรตีนที่ช่วยเติมเต็มสุขภาพในแต่ละวัน
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคล่องตัว (agility) และใช้ข้อมูล-เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง รวดเร็ว และตรงจุด รวมไปถึงการผลักดัน Goodmate จากการเป็นเพียง “นมทางเลือก” ให้กลายเป็น “นมทางหลัก” ของคนรุ่นใหม่ ที่ดีต่อสุขภาพ ดื่มง่าย อร่อย และเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคในตลาดทั่วภูมิภาคเอเชีย


