
สถาบันวิจัยมะเร็งยอร์กเชียร์ เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดซึ่งชี้ให้เห็นว่า 18% ของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งในภูมิภาคยอร์กเชียร์ สหราชอาณาจักร มีแนวโน้มที่จะหันกลับไปสูบบุหรี่มวน หากการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้ จี้รัฐหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเข้าถึงง่ายและมีราคาที่เหมาะสมสำหรับสิงห์นักสูบที่ต้องการเลิกบุหรี่
11 มิ.ย. 2568 – นายสจ๊วต กริฟฟิธส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย นโยบาย และผลกระทบของสถาบันวิจัยมะเร็งยอร์กเชียร์ เปิดเผยถึงผลสำรวจระบุว่า การแบนผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าโดยไม่มีมาตรการรองรับอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบที่คาดไม่ถึง ทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องสนับสนุนเครื่องมือที่ดีที่สุดแก่ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ให้ผู้สูบบุหรี่ไปสู่ที่ทางเลือกที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ไม่ใช่ผลักให้กลับไปสูบบุหรี่มวนอีกครั้ง
สำหรับผลสำรวจดังกล่าวซึ่งได้รับการเผยแพร่ในเวปไซด์ www.yorkshirecancerresearch.org.uk ทำการศึกษาโดย YouGov เก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่กว่า 2,000 คนในภูมิภาคยอร์กเชียร์ พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยร้อยละ 23 ของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าระบุว่าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เนื่องจากมีราคาถูก
“ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการบริการสนับสนุนการเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า” นายกริฟฟิธส์ กล่าว

ทั้งนี้ สถาบันวิจัยมะเร็งยอร์กเชียร์สนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือในการเลิกบุหรี่ และได้ริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้ที่สูบบุหรี่ในภูมิภาคนี้สามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น โดยพบว่า 79% ของผู้เข้าร่วมโครงการที่บุหรี่ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ ซึ่งสูงกว่าผู้ที่ใช้แผ่นแปะนิโคติน (73%) หรือผู้ที่ได้รับการสนับสนุนทางพฤติกรรมอย่างเดียว (71%)
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังคงพบว่า 59% ของประชาชนในยอร์กเชียร์ยังเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเทียบเท่าหรือมากกว่าบุหรี่มวน ซึ่งสวนทางกับงานวิจัยจำนวนมากที่ระบุว่าความเสี่ยงของโรคมะเร็งจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าต่ำกว่าการสูบบุหรี่มวนอย่างมีนัยสำคัญ
“เรายินดีสนับสนุนการรณรงค์ด้านสาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความเสี่ยงของบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับบุหรี่มวน เพื่อขจัดความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือกับผู้สูบบุหรี่เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาเลิกบุหรี่ได้อย่างถาวร และเรายังสนับสนุนร่างกฎหมายยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้า (Tobacco and Vapes Bill) เพื่อออกมาตรการควบคุมการแสดงผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ณ จุดขาย โดยให้ย้ายตู้จัดเรียงบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดในร้านค้าปลีกไปไว้เคาน์เตอร์ เพื่อลดการเข้าถึงของเด็ก”
สำหรับในประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลซึ่งนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าจับกุมและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังและใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าหลายรายออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาจำเป็นต้องหันกลับไปสูบบุหรี่มวน แม้ไม่ต้องการรับควันบุหรี่ที่มีสารพิษกว่า 7,000 ชนิดหรือกลิ่นเหม็นอีกต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กก.ดส. บุกจับคู่รักขายหัวจ่าย 'พอตซอมบี้' ยึดของกลางเพียบ
ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.ดส. ร่วมกับ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.กทม.
“รองนายกฯ โสภณ” หนุน สสส. ขยายผล “ชุมชนล้อมรักษ์” เล็งยกเครื่องกฎหมายยาเสพติด-บุหรี่ไฟฟ้า เสนอ ครม. ตั้ง คกก.ปราบบุหรี่ไฟฟ้า รายงานตรงนายกฯ ลดข้อจำกัดทางกฎหมาย
นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการประชุมกรรมการกองทุนฯ
ราชบัณฑิตยสภาสดุดีคุณูปการ "ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ผู้วางรากฐานสังคมปลอดบุหรี่ไทย ด้าน “หมอประกิต” จี้รัฐบาลปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าจริงจังหลังพบสถิติเยาวชนเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าพุ่ง
ที่เรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน เขตดุสิต เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานราชบัณฑิตยสภา จัดงาน ปาฐกถารำลึก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการควบคุมยาสูบในประเทศไทย” โดยมีทายาท ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร่วมงาน อาทิ
รมต.สันติมาทำเนียบฯ แต่เช้าเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์!
'สันติ ปิยะทัต' เข้าทำเนียบฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังเข้ารับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยังไม่ตอบแนวทางปราบบุหรี่ไฟฟ้า ขอแถลงนโยบายก่อน
'หมอธีระวัฒน์' เตือนระวังสารเสพติดตัวใหม่ 7-OH แรงกว่ามอร์ฟีน 10 เท่าใส่ใน 'เยลลี่-ไอสกรีมโคน-บุหรี่ไฟฟ้า'
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ประธานศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
ที่ประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ กระชากหน้ากาก “ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า” สสส. เร่งสานพลังทุกส่วน สร้างภูมิคุ้มกัน
วันที่ 5 ส.ค. 2568 ที่ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดแถลงข่าว “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : คนรุ่นใหม่รู้เท่าทันกลยุทธ์”


