
วอร์รูมพาณิชย์เผยเนื้อหมูราคาลงต่อเนื่อง เนื้อไก่ ทรงตัว น้ำมันปาล์ม เริ่มลด ผักสดมีเพิ่มและลด ส่วนการตรวจสอบสินค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทำครบแล้ว ทั้งตลาดสด ห้าง การตรวจห้องเย็นเก็บเนื้อหมู โรงเชือด 616 ราย พบผิด 12 ราย ส่งฟ้องและมีคำพิพากษาแล้ว 3 ราย พร้อมสั่งมอนิเตอร์สินค้าต่อ เน้นกลุ่มจำเป็น ปัจจัยผลิต และดูต้นทุนน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม
9 ก.พ. 2565 – นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือวอร์รูม ว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่เฝ้าระวังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีราคาทรงตัวและบางชนิดเริ่มปรับลดลง โดยเฉพาะเนื้อหมู ราคาลดลงค่อนข้างชัดเจน โดยราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ส่วนสะโพก ไหล่ ไม่รวมหมูเนื้อแดงปรุงแต่ง อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 164-170 บาท ลดจากสัปดาห์ที่แล้ว (วันที่ 30 ม.ค.) ที่ราคาเฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ 187 บาท และตอนนี้เฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ 175 บาท
สำหรับเนื้อไก่ ราคาเริ่มทรงตัว เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาที่จำหน่ายในห้างเนื้อน่องติดสะโพก กก.ละ 65 บาท เป็นราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล และในตลาดสด ราคาแตกต่างกันแต่ละพื้นที่ แต่เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 70-75 บาท และคาดว่า แนวโน้มราคาจะยังทรงตัวต่อไป เพราะต้นทุนอื่น ๆ ยังคงที่
ส่วนน้ำมันพืชปาล์ม แนวโน้มราคาไม่น่าจะสูงขึ้นแล้ว และกำลังเริ่มลดลง แต่จะยังทรงตัวในระดับนี้ต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากยังเป็นสต๊อกเก่าที่ราคาต้นทุนสูง และจากนั้นราคาจะปรับตัวลดลง เพราะผลผลิตปาล์มสด เริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมี.ค.2565 เป็นต้นไป โดยราคาที่สำรวจจากร้านสะดวกซื้ออยู่ที่ขวดลิตรละ 64-65 บาท และในห้าง 61-62 บาท
ทางด้านผักสด มีราคาทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง แต่ละจังหวัดแตกต่างกัน เนื่องจากผักเป้นสินค้าที่มีแหล่งผลิตเฉพาะ บางที่ปลูกได้ บางที่ปลูกไม่ได้ และยังมีต้นทุนค่าขนส่งเป็นตัวแปร แต่ตามที่ได้รับรายงาน คาดว่า ผักไม่น่าจะสูงไปกว่านี้ ถ้าไม่มีภัยธรรมชาติเข้ามา ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่ว ๆ ไป ราคาทรงตัว ยกเว้นภาคใต้ ที่ราคาอาจจะสูงกว่าภาคอื่นเล็กน้อย เพราะมีต้นทุนในเรื่องค่าขนส่ง จากระยะทางที่ไกล
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการจัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ มี 55 ชุด และภูมิภาคทุกจังหวัด ซึ่งในกรุงเทพฯ ได้ตรวจสอบตลาดสด 103 แห่ง ห้างค้าส่งค้าปลีก 101 แห่ง และในต่างจังหวัดก็ตรวจสอบทั้งตลาดสด และห้างเช่นเดียวกัน โดยรายที่พบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคา ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ ยังได้ตรวจสอบห้องเย็น และโรงเชือด ที่ประกาศ กกร. กำหนดให้แจ้งการเก็บสต๊อกเนื้อหมูตั้งแต่ 5,000 กก.ขึ้นไป โดยมีผู้แจ้ง 404 ราย มีเนื้อหมูในสต๊อก 15.5 ล้าน กก. แต่รายที่ไม่แจ้ง ก็ตรวจสอบด้วย โดยตรวจรวม 616 ราย รวมมีเนื้อหมู 19.5 ล้าน กก. พบผู้กระทำผิด 12 ราย ส่งฟ้องและมีคำพิพากษาแล้ว 3 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 9 ราย
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ซอสปรุงรส เครื่องใช้ไฟฟ้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สินค้าที่เป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ และสินค้าเกษตรสำคัญ รวมถึงติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการปรับลดหรือขึ้นของสินค้า เช่น ราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม และติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พาณิชย์’ผนึกเอกชนลดราคาวัสดุก่อสร้างช่วยชาวใต้
‘พาณิชย์’ ผนึกกำลังผู้ผลิต ห้างวัสดุก่อสร้าง จัดแคมเปญลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูบ้านเรือน สูงสุด 80% ระยะเวลา 1 เดือน ใน 40 สาขาพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุม 9 จังหวัด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน พร้อมสั่งติดตามสถานการณ์สินค้า บริการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ป้องกันเอาเปรียบประชาชน
พาณิชย์ หารือ 4 สมาคมข้าวและพืชไร่ รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ เตรียมมาตรการดูแลราคาข้าวและพืชผลทางการเกษตร ก่อนเข้า นบข. 18 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้อง กิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับ 4 สมาคมภาคการเกษตร ได้แก่ สมาคมโรงสีข้าวไทย
'พาณิชย์'เดินหน้าจัดกิจกรรมลดค่าครองชีพให้ประชาชน
‘พาณิชย์’สอดรับ’คนละครึ่งพลัส’ผนึกห้างท้องถิ่นทั่วประเทศจัดมหกรรมลดราคาสินค้า’รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย’ ลดสูงสุดกว่า 60% ทั่วประเทศ ดีเดย์ 1–15 พฤศจิกายนนี้
ขุนคลังเล็งคุย 'พาณิชย์-เอกชน' ดึงสินค้าบางรายการออกจากภาษีทรัมป์!
'เอกนิติ' เตรียมคุย พณ.-เอกชน หวังดึงสินค้าบางรายการออกจากภาษีทรัมป์ 19% ยัน ไม่รื้อนโยบายคณะเจรจา รบ.เก่า
‘พาณิชย์’ รุกปราบต่างชาติสวมสิทธิ์ ใช้นอมินีถือครอง ‘ธุรกิจอำพราง’
ในยุคที่การลงทุนออนไลน์ขยายตัว ชาวต่างชาติบางกลุ่มฉวยโอกาสใช้คนไทยเป็นนอมินีจดทะเบียนบริษัท ถือครองที่ดินและทำธุรกิจท่องเที่ยวผิดกฎหมาย ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ “ล่าธุรกิจอำพราง” หยุดวงจรต่างชาติสวมสิทธิ์ในประเทศ
‘ศุภจี’มอบ7นโยบาย Quick Big Win แก้ปัญหาเศรษฐกิจลดค่าครองชีพ
‘ศุภจี’ มอบ 7 นโยบาย Quick Big Win ให้ทีมพาณิชย์ ยึดหลักทำสั้นได้ผล กระจายตัวให้ทุกคนได้ประโยชน์ เดินหน้าปิดดีลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนสิ้นปี ช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ลุยเจรจา FTA ผลักดันใช้ประโยชน์จาก FTA และบุกตลาดใหม่ ดูแลค่าครองชีพ ทั้งลดราคาสินค้า ลดภาระเรื่องยา รักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร โฟกัสข้าวที่กำลังออกสู่ตลาด เสริมแกร่ง SME และปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค


