
เงินเฟ้อ มิ.ย. 68 ลด 0.25% เทียบเดือนเดียวกันของปี 67 ลดลง 3 เดือนติด เหตุราคาพลังงาน-ผักสด ลดลงมาก ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 คาดลบต่อ จากราคาพลังงาน อาหารสดลดต่อ รัฐลดค่าครองชีพคนไทย และห้างร้านทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้า แต่ค่าใช้จ่ายครัวเรือนพุ่งสวนทาง สูงถึง 2 หมื่นบาท จากค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าแพทย์ ค่ายา
7 ก.ค. 2568 – นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนมิ.ย.68 ว่า เท่ากับ 100.42 เมื่อเทียบกับ 100.67 ของเดือนมิ.ย.67 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.25% เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับจากเดือนเม.ย.ที่ลดลง 0.22% และเดือนพ.ค.ที่ลดลง 0.57% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้า ประกอบกับ ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดหลายรายการโดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด ลดลงมาก แต่ยังมีสินค้าอาหารบางรายการที่มีราคาสูงขึ้น อาทิ เนื้อสุกร และอาหารสำเร็จรูป สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก ขณะที่เงินเฟ้อช่วง 6 เดือน (ม.คซ-มิ.ย.) 68 เพิ่มขึ้น 0.37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
“เดือนมิ.ย.68 เงินเฟ้อลดลง เพราะราคาพลังงาน และราคาผักสดลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.67 เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 32.95 บาท จากเดือนมิ.ย.67 ที่ลิตรละ 37.98, ดีเซล ลิตรละ 32.96 บาท จาก 31.87 บาท หรือราคาผักสดก็ลดลงมาก เช่น กะหล่ำดอก กิโลกรัม (กก.) ละ 59.15 บาท จาก 69.97 บาท, ผักกวางตุ้ง กก.ละ 37.32 บาท จาก 39.34 บาท เป็นต้น โดยทั้ง 2 หมวดมีสัดส่วนคำนวณเงินเฟ้อเกือบ 17% จึงทำให้เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ลดลง แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ที่ 0.0-1.0% ค่ากลางที่ 0.5%” นายพูนพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่เงินเฟ้อลดลงต่อเนื่องกัน 3 เดือน ยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาส 3 ปี 68 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปี 68 ที่ลดลง 0.35% เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปี 67 จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางผ่อนคลายลง หลังจากมีการทำข้อตกลงหยุดยิง, ภาครัฐช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดือนพ.ค.-ส.ค.68 ลง 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย, ราคาผักสดปีนี้ลดลงจากปีก่อน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ราคาพลังงาน และราคาผักสดในเดือนมิ.ย.68 ลดลงมาก แต่เมื่อพิจารณารายจ่ายของครัวเรือนไทยเดือนมิ.ย.68 กลับสูงถึง 21,043 บาท เพราะมีราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น โดยเดือนมิ.ย.68 มีสินค้าที่ราคาปรับขึ้น 227 รายการ เช่น เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทู ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมชาย ค่าแพทย์ ค่ยา, สินค้าที่ราคาลดลง 178 รายการ และสินค้าราคาคงเดิม 59 รายการ ส่งผลให้กลุ่มสินค้าและบริการที่ต้องจ่ายมากที่สุด คือ ค่าเช่าบ้าน ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 5,164 บาท, ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 4,666 บาท, ค่าแพทย์ ยา และค่าบริการส่วนบุคคล 1,336 บาท, อาหารสำเร็จรูป 3,509 บาท, เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ สัตว์น้ำ 1,561 บาท, ผักและผลไม้ 1,028 บาท เป็นต้น


