‘ดุสิตโพล’ ชี้มหาวิทยาลัยไทยมีส่วนสนับสนุนซอฟต์เพาเวอร์

20 ก.ค. 2568 – “สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ร่วมกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “บทบาทมหาวิทยาลัยไทยกับ Soft Power” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,128 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าไทยควรใช้ Soft Power เป็นยุทธศาสตร์หลักในการสร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในเวทีโลกด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและเทศกาลระดับโลก ร้อยละ 70.78 เรื่องที่มองว่ามีศักยภาพสูงในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคต คือ ธุรกิจสุขภาพ ความงาม และการดูแลสุขภาพแบบไทย ร้อยละ 58.24 ทั้งนี้มหาวิทยาลัยไทยควรมีบทบาทในการพัฒนา Soft Power ของประเทศด้วยการเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม Soft Power ร้อยละ 61.08 นักศึกษาไทยควรมีบทบาทเป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ร้อยละ 64.18 ในภาพรวมมองว่ามหาวิทยาลัยมีศักยภาพขับเคลื่อน Soft Power ในบางสาขาและยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม ร้อยละ 43.97 สุดท้ายอยากเห็นมหาวิทยาลัยไทยร่วมมือกับต่างประเทศในการพัฒนาหลักสูตรความร่วมมือระดับนานาชาติ ร้อยละ 65.72

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า Soft Power ไทยมีศักยภาพก้าวสู่ระดับโลกหากรัฐบาลเดินเกมให้ถูกทาง โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจสุขภาพแบบไทยที่มีศักยภาพสูงในสายตาประชาชน ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยไทยสามารถช่วยขับเคลื่อนได้ด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เชื่อมโยงไทยสู่เวทีโลก รัฐบาลจึงต้องมีนโยบายที่ชัดเจน จับต้องได้ ไม่ใช่เพียงวาทกรรม พร้อมเปิดพื้นที่ให้นักวิจัย เยาวชน และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

ผศ.ดร.พรชนิตว์ แก้วเนตร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อมั่นสูงว่าไทยสามารถใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ได้ในเชิงเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ เช่น การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ แต่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐ/เอกชนจะจัดการด้านสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง Soft Power ที่เห็นว่ามีศักยภาพสูง คำตอบใน 3 อันดับแรกกลับอยู่ในช่วงคะแนน 50-60% ซึ่งตีความได้ว่า เห็นด้วยพอสมควรว่าเป็น Soft Power ที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังไม่มั่นใจเต็มที่ว่าไทยจะผลักดันได้สำเร็จ และคาดหวังให้มหาวิทยาลัยไทยเป็นกลไกกลางในการพัฒนา Soft Power ทั้งการสร้างองค์ความรู้ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทาง ทั้งยังมองว่านักศึกษาคือกำลังสำคัญในการเป็น Soft Power รุ่นใหม่แต่ศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทยยังไม่เต็มร้อย โดยเฉพาะด้านโครงสร้างความร่วมมือและทุนวิจัย จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างเครือข่ายและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง

'ดุสิตโพล'ชี้สส.ย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนของประชาชน

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค...ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ