'ผยง' โอดภาษีสหรัฐฯกดดันศก.ไทย เร่งออกมาตรการอุ้มคาด1เดือนชัด

ผยง’ รับภาษีสหรัฐฯ เหมือน Perfect Storm กดดันการเติบโตเศรษฐกิจไทย แจงสมาคมแบงก์เร่งประสาน กกร.- ธปท. – สภาพัฒน์ และคลัง เดินหน้าออกมาตรการระยะสั้น-ระยะยาว ช่วยฟื้นตัวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คาดมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน

29 ก.ค. 2568 – นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ยอมรับว่าปัจจัยเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีแรงกดดันมากขึ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะผลกระทบมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อกลุ่มซัพพลายเชนต่าง ๆ การปรับตัวจากการทุ่มตลาด (ดัมป์ปิ้ง) การเปิดนำเข้าในรูปแบบที่กำแพงภาษีลดลง และผลกระทบต่อการจ้างงาน

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และได้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการเร่งพิจารณาออกมาตรการระยะสั้นและระยะยาวในการฟื้นตัวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ให้ครบทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน

“เราต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็น Perfect Storm ซึ่งการช่วยเหลือจะต้องมีทั้งการประคับประคองไปจนถึงการฟื้นตัว ซึ่งการฟื้นตัวจะไม่ใช่รูปแบบเดิม ต้องเป็นรูปแบบใหม่เลย ซึ่งการดำเนินการอยู่บนกรองที่เราเข้าใจว่าทรัพยากรของประเทศมีจำกัด เราเห็นในเรื่องแรงกดดันของหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ โครงสร้างเศรษฐกิจนอกระบบ ดังนั้นจึงต้องเร่งเข้ามาคิดพิจารณาในวาระแวดล้อม เพราะเราต้องแข่งขันกับโลก เราไม่ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว จะทำอย่างไร มีมุมไหนที่เราจะแข่งขันได้ ด้วยรูปแบบอย่างไร และต้องมีการลงทุนใหม่แบบไหน ไม่ใช่แค่การลงทุนเพิ่ม แต่เป็นการลงทุนเพื่อทำให้ของเก่ายังคงอยู่ได้และอยู่ได้ในรูปแบบใหม่ ในตลาดใหม่ ในโครงสร้างการค้า กฎ กติกาโลกแบบใหหม่ ทั้งหมดเป็นเรื่องใหม่ทั้งสิ้น เราต้องเร่งลำดับความสำคัญของแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเงินและบริการ” นายผยง กล่าว

ส่วนปัจจัยเสี่ยงเรื่องความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีผลต่อการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ อย่างไรนั้น นายผยง ระบุว่า เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะประเทศมหาอำนาจต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจากนี้ทุกฝ่ายจะมีการหารือกันในเชิงบูรณาการ และหวังว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะออกมาเป็นบวก

เพิ่มเพื่อน