
‘สภาผู้บริโภค’ เห็นด้วยรัฐบาลใช้ตั๋วบุฟเฟ่ต์ไม่เกิน 30 บาทตลอดวัน ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน พร้อมเสนอให้อบจ. ใช้ภาษีล้อเลื่อนตั้งกองทุนทำบริการขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ
22 ก.ย. 2568 – นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่าสภาผู้บริโภคสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งทำ “ตั๋วบุฟเฟ่ต์ 30 บาทต่อวัน” ของพรรคภูมิใจไทยเพื่อให้ประชาชนใช้บริการขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้น ลดค่าครองชีพ แถมยังได้ประโยชน์ในการลดปัญหา PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร ลดการใช้พลังงานฟอสซิล และเห็นด้วยที่จะรวมให้รถเมล์ กรุงเทพมหานครหยุดสนับสนุนรถเมล์มานาน หากรวมรถเมล์ เรือ จะทำให้เกิดบริการขนส่งสาธารณะไร้รอยต่อ รถเมล์และเรือร่วมเป็นระบบส่งต่อเข้าสู่รถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพโดยตรงไม่น้อย 3,000-5,000 บาทต่อเดือน ประเทศจะพัฒนาได้ระบบบริการขนส่งสาธารณะซึ่งเป็นบริการพื้นฐานของประชาชนควรได้รับการพัฒนา เช่น ในประเทศจีน สิงคโปร์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย หรือแม้แต่ในภูมิภาคอาเซียนที่ปรับปรุงเพิ่มขึ้นมาก
ทั้งนี้ สนับสนุนให้รัฐบาลทำให้ทุกคนใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกวัน (Car Free Everyday) ไม่ใช่เฉพาะวันที่ 22 กันยายนของทุกปีเท่านั้น หากรัฐบาลดำเนินการจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนมากมายมหาศาล และมั่นใจว่า ทำได้เพราะกรุงเทพมหานครมีรายได้จากภาษีในการจดทะเบียนรถสูงถึง 16,000 ล้านบาทต่อปี หรือแม้แต่ในจังหวัดขอนแก่นที่มีภาษีล้อเลื่อนจำนวนไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท นักธุรกิจและนักวิชาการในขอนแก่นให้ข้อมูลตรงกันว่า หากใช้เงินเพียง 200 ล้านบาทต่อปี ประชาชนทุกคนในขอนแก่นสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ฟรี
นางสาวสารี กล่าวว่า ขณะนี้ นายกอบจ.ภูเก็ตได้ดำเนินการแล้วให้เด็กนักเรียน ผู้สูงอายุ ใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้าฟรี นายกอบจ.ลำพูนได้ดำเนินการจัดบริการขนส่งสาธารณะในจังหวัด นายกอบจ.กาญจนบุรี เตรียมจัดบริการรถเมล์ไฟฟ้าจากอำเภอท่าม่วงเข้าเมือง โดยให้ข้อมูลว่า อบจ.ขาดทุนเพียงปีละ 12 ล้านบาท นายกอบจ.เชียงใหม่พร้อมสนับสนุนเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ระบบขนส่งสาธารณะ ควรเป็นบริการพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรขึ้นได้ทุกวัน ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งจราจร(สนข.) ที่เร่งทำพรบ.ตั๋วร่วม กรมขนส่งทางรางที่สนับสนุนใช้ระบบรางเพิ่มขึ้นในการลดอุบัติเหตุจราจร
“หวังว่ากรมขนส่งทางบกจะสนับสนุนขสมก. และรถเมล์เอกชน ให้ฟื้นคืนชีพ หลังจากที่ถูกทอดทิ้งมาหลายปี รวมถึงกระทรวงมหาดไทยจะสนับสนุนจังหวัดต่างๆ ที่มีความพยายามดำเนินการเรื่องนี้ หากนโยบาย ‘ตั๋วบุฟเฟ่ต์ 30 บาทต่อวัน’ สำเร็จ จะเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลและเร่งให้จังหวัดต่างๆ ได้พัฒนาอย่างเป็นระบบ นี่คือโครงการที่ไม่ต้องรอผลระยะยาว แต่ประชาชนได้ประโยชน์ทันทีที่เริ่มต้น เพราะทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตมากขึ้นซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาล ประชาชนสามารถนำไปใช้กับค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ได้” นางสาวสารี กล่าว


