'เอกนิติ' ตีปี๊บชวนร้านค้าเข้าคนละครึ่งพลัส คาดเงินสะพัด8.8หมื่นล. ยันไม่ส่งข้อมูลให้สรรพากร

‘เอกนิติ’ ตีปี๊บชวนร้านค้าลงทะเบียนเข้าโครงการคนละครึ่ง พลัส ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 9 แสนร้านค้า ประเมินประชาชนใช้จ่ายคึกดันเงินสะพัด 8.8 หมื่นล้านบาท พร้อมยืนยันไม่ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร วอนร้านค้า-ประชาชนไม่ต้องกังวลใจ

15 ต.ค. 2568 – เมื่อเวลา 08.15 น. ที่ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง กล่าวภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมชมการเปิดลงทะเบียนร้านค้าวันแรกในโครงการคนละครึ่ง พลัส ว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 900,000 ร้านค้า ใกล้เคียงกับร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ แต่มีร้านที่ Active ข้อมูลอยู่ราว 100,000 ราย และคาดว่าจะช่วยให้มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจราว 88,000 ล้านบาท มาจากเงินที่รัฐบาลช่วยสมทบ 44,000 ล้านบาท และการใช้จ่ายของประชาชนอีก 44,000 ล้านบาท

สำหรับกรณีที่ร้านค้าส่วนใหญ่มีความกังวลใจเรื่องภาษีหากเข้าร่วมโครงการนั้น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในโครงการคนละครึ่ง พลัส จะเป็นข้อมูลระบบปิด เป็นความลับของข้อมูล ไม่มีการส่งข้อมูลให้ใคร หรือหน่วยงานใดอย่างแน่นอน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ดังนั้นข้อมูลการค้าขายในโครงการจึงไม่สามารถนำออมาได้ ส่วนเรื่องภาษีนั้น อยากชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องเสียภาษีอยู่แล้ว

“ไม่อยากให้กังวลเรื่องภาษี และไม่อยากให้ประชาชนเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะข้อเท็จจริงแล้วเื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องเสียภาษี เช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่ง พลัส ที่รัฐบาลได้ให้แรงจูงใจสำหรับประชาชนที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคน จะได้รับวงเงินมากกว่า และโครงการนี้ก็มาจากภาษีของคนไทยเช่นกัน ดังนั้นหน้าที่ในการเสียภาษีจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ส่วนความกังวลเรื่องข้อมูลต่าง ๆ ในโครงการนั้น ขอยืนยันว่า ข้อมูลจะไม่ถูกส่งให้ใครหรือหน่วยงานใดอย่างแน่นอน จึงอยากให้มั่นใจว่าจะไม่มีข้อมูลรั่วไหล แม้แต่กรมสรรพากรก็ไม่สามารถมาดึงข้อมูลตรงนี้ไปได้เช่นกัน โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยทำให้การใช้จ่ายมีความคึกคักมากขึ้น” นายเอกนิติ ระบุ

ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส เพราะจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า โดยร้านค้าที่อยู่ในระบบของโครงการคนละครึ่งเดิม และยังมีการ Active ข้อมูลเป็นประจำนั้น สามารถเข้าไปที่แอปพลิเคชันถุงเงิน เพื่อกดปุ่มยอมรับเงื่อนไข และเข้าโครงการคนละครึ่ง พลัส ในฐานะร้านค้าได้ทันที ส่วนร้านค้าที่ยังไม่เคยอยู่ในโครงการคนละครึ่ง จะต้องเตรียมบัตรประชาชน รูปถ่ายร้านค้า และยืนยันตัวตนได้ที่สำนักงานเขต กระทรวงมหาดไทยในกรณีอยู่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นนำหลักฐานไปยังธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยยืนยันตัวตน ว่ามีตัวตนจริง และมีร้านค้าจริง โดยภายใน 3 วันหลังตรวจสอบข้อมูลครบถ้วน จะเข้าไปอยู่ในแอปพลิเคชันถุงเงินได้ทันที

โดยร้านค้าที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. – 19 ธ.ค. 2568 ส่วนประชาชนทั่วไป จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 20-26 ต.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 22.00 น. และเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น.

อย่างไรก็ดี ในส่วนของบริการสาธารณะสามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัสได้ด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง จะต้องมีใบขับขี่สาธารณะถูกต้อง ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้ทำการเชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับฟู้ดเดลิเวอรี่ ซึ่งขณะนี้มีแพลตฟอร์ม 4 แห่งที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และพร้อมจะให้สิทธิประโยชน์กับผู้ใช้บริการในโครงการด้วย เช่น ลดค่าบริการที่ร้านค้าต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์ม (ค่า GP) ให้เป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น รวมถึงนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิโรจน์' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการ 'เบนสมิธ' เพิ่มเติม

'วิโรจน์' ลั่น เส้นทางการเงินการลากคอคนไทยตัวใหญ่มาลงโทษสำคัญกว่าภาพถ่าย'เบนสมิธ' กับบุคลสำคัญ ร่วมกับ 'อนุทิน' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก