
สังคมเริ่มเห็นท่าทีการทำงานในสภาที่เข้มแข็ง ของ สส. พรรคส้มหลายคน อย่าง รังสิมันต์ โรม และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เอาข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา และ ทอม ไรต์ มาขยายอภิปรายโจมตี ร.อ. ธรรมนัส ได้อย่างน่าชมเชย ในยุครัฐบาลอนุทิน
แต่น่าแปลกใจ ที่ดูวิธีการโจมตี ดูจะประนีประนอมกับ ทักษิณ และ ครอบครัวชินวัตรมาก ในภาพข่าวที่อ้างอิง ที่ร้านอาหาร Provence สำนักข่าวอิศรา เปิดด้วย บุคคลสำคัญคือ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (เบนจามิน สมิธ) นายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร และนายยิม เลียก ประธานกลุ่มบริษัท B.I.C ของกัมพูชา ซึ่งทั้ง นายเบนจามิน สมิธ และ นายยิม เลียก อยู่ในกลุ่มรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Scammer ซึ่งสหรัฐฯมีกฎหมายให้คว่ำบาตร โดยทอม ไรต์ให้ความสำคัญกับ ร.อ. ธรรมนัสน้อยมาก
การนำเรื่องนี้ มาเปิดโปง ไล่บี้ ร.อ. ธรรมนัส เป็นเรื่องที่ดี เพราะ “เทา” จริง แต่การไม่มุ่งเป้า ทักษิณ “เทาแท้” เป็นเรื่องเข้าข่าย “ส้มเทา” อย่างเลี่ยงไม่ได้
ในเมื่อภาพนี้ ทักษิณ พบกับ เบนจามิน สมิธ ผู้เป็นนายหน้าซื้อเครื่องบินเจ็ต และ เป็นที่ปรึกษาฮุนเซนด้วย
แต่ทำไม ตั้งแต่ที่มีข่าวสำนักข่าวอิศราตั้งแต่ วันที่ 22 สิงหาคม 2568 ว่า “นักข่าวดังสหรัฐฯ อ้างข้อมูล ‘ทักษิณ’ ใช้นายหน้าแอฟริกาใต้เครือข่ายฮุนเซน ซื้อเจ็ทส่วนตัว” หรือ ข่าว วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เปิดตัว‘แคทรียา บีเวอร์‘ ภรรยา ‘เบนจามิน’ กุนซือฮุนเซน หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันบางจาก แต่พรรคส้ม กลับ “เงียบ” ซึ่ง ถ้าไม่เป็น “ส้มเทา” ก็ต้องเอาเรื่องเครือข่ายระบอบทักษิณ ซึ่งเป็น “เทาแท้” เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน ให้จริงจังกว่านี้อีกมาก ก่อนจะโม้ว่า “มีเราไม่มีเทา”
ช่วงนั้นเรื่อง คลิปเสียง “อุ๊งอิ๊ง-อังเคิล” กำลังเป็นที่สนใจ…ทักษิณสนับสนุนให้รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เร่งนำเอาทรัพยากรทางทะเลในพื้นทับซ้อนแบบรับการผ่าเกาะกูด มาแบ่งกัน 50/50 กับกัมพูชา…นายพิชัย ชุณหวชิร ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังที่ทักษิณวางใจ ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัทบางจาก ก่อนมารับตำแหน่งนี้…ฮุนเซน ก็เปิดโปง ว่าตนมีบุญคุณกลับครอบครัวชินวัตร ไม่เคยติดหนี้บุญคุณประเทศไทย เป็นผู้ให้ที่พักหนีคดีไทยกับทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์มาแล้ว ทักษิณก็เคยทรยศชาติ โดยเอาเอกสารลับทางราชการไปมอบให้นายฮุนเซน และ ที่เลวร้ายที่สุด คือ ฮุนเซนยังเปิดโปงอีกว่า ในม็อบคนเสื้อแดง ฮุนเซนเป็นผู้สนับสนุนอาวุธสงครามมาก่อการร้าย แล้วไปแฝงตัวกับคนเสื้อแดงบริสุทธิ์ อย่างใจร้าย (เช่นเดียวกับที่เอาอาวุธยิงจรวดไปตั้งท่ามกลางชุมชนคนกัมพูชา) ทำให้เป็นม็อบกู้คืนสมบัติทักษิณแฝงกองกำลังติดอาวุธไม่เป็นประชาธิปไตยแท้ ด้วยฮุนเซนหวังสร้างความแตกแยกระหว่างคนไทย และ หวังล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อสนับสนุนรัฐบาลชินวัตรกลับมาทวงสมบัติโกงชาติคืน
เรื่องเหล่านี้ เรากลับไม่ได้ยินการถล่มจากพรรคส้มเลย เน้นแต่เรื่อง ร.อ. ธรรมนัส เอี่ยวทอดกฐิน หวังกระทบ นายกฯอนุทิน ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องดีที่ควรตรวจสอบและเปิดโปงความผิดปรกติ แต่ไม่ควรละเว้นกลุ่มระบอบทักษิณที่เป็น “ไทยเทาแท้”
หรือเพราะ ตั้งแต่กำเนิดพรรคอนาคตใหม่ แดง-ส้ม ทำดีลลับ “ฮั้วการโกหก” ทำขาวเป็นดำ ทำดำเป็นขาว ? ทำให้ประชาชนมองข้ามนักการเมือง “ไทยเทาแท้” โกงชาติ จนอาจถึงขั้นขายชาติ และ ส้มกลับเน้นต้านรัฐประหารเป็นหลัก ตั้งใจลดอำนาจการตรวจสอบ และ ลดกำลังทหารที่จะช่วยการบังคับใช้กฎหมาย และหากเป็นเช่นนั้นต่อไป อาจถึงขั้น “ฮั้วอำนาจ” หรือ “ฮั้วการโกง” ก็เป็นได้ “ส้มดีๆ” ในวันนี้ กำลังเริ่มเปิดธาตุแท้ตามผู้นำจะเป็น “ส้มเทา” หรือไม่ ? พฤติกรรมจะเป็นตัวบอก
นาย รังสิมันต์ โรม ในฐานะ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ใช้อำนาจเรียกคนมาอธิบายมากมาย หลายเรื่องก็ทำได้เร็ว แต่ทำไมไม่เอาจริงกับ “ไทยเทาแท้” ? ถ้าไม่ใช่ “ส้มเทา”
… โรม น่าจะเรียกนายกฯอุ๊งอิ๊งมาชี้แจงว่า ทำไมไปยอมอังเคิลฮุนเซน เห็นแม่ทัพไทยเป็นคนละฝั่งกับพวก (อุ๊งอิ๊งและฮุนเซน) ? ทำไมถามว่าอังเคิลจะเอาอะไรก็ขอให้บอก ? ทำไมพ่ออุ๊งอิ๊งไปแสดงวิสัยทัศน์ เอาทรัพยากรทางทะเลมาแบ่งกัน 50/50 ? ทำไมตั้งแต่ปี 2544 รัฐบาลทักษิณ ไปทำ MOU 44 ยอมรับเส้นแบ่งพื้นที่ทางทะเลของกัมพูชา ซึ่งผ่ากลางเกาะกูด แม้ทำเป็นเส้นอ้อมเกาะ ซึ่งไม่เป็นไปตามแบบสากล
… โรม ดูแลกรรมาธิการที่ดูแลเรื่องชายแดนไทย โรมก็น่าจะถามอุ๊งอิ๊งว่า ทำไมพ่อทักษิณไปพูดว่า พื้นที่ที่ไม่ได้ปักปันเขตแดน ก็ถอยคนละ 200 เมตร เป็นพื้นที่กลาง แทนที่จะยึดเรื่อง “สันปันน้ำ” ในแนวเทือกเขาพนมดงรัก ตามที่อ้างใน MOU43 และ ยังมีข่าวว่า อาจจะไปใช้เป็นพื้นที่ร่วมเช่น เป็นสถานบันเทิงครบวงจร และ นั่นจะเป็นจะกลายแหล่งสแกมเมอร์หรือไม่ ?
… โรม ก็น่าจะตั้งกระทู้ถาม อุ๊งอิ๊ง เมื่อมีรายงานของ UNODC (United Nation Office on Drugs and Crime) ตุลาคม 2024 ถูกเผยแพร่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า แหล่งสแกมเมอร์ใหญ่ มีในเมียนมาร์ และ กัมพูชา และ จำนวนไม่น้อย จะอยู่ที่พื้นที่ติดพรมแดนไทย ซึ่งนายกฯอุ๊งอิ๊งทำเป็นขึงขัง ตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า แหล่งสแกมเมอร์ ฝั่งเมียนมาร์ แต่กลับละเว้นฝั่งกัมพูชา ! กลายเป็นทำลายแก๊งสแกมเมอร์ฝั่งเมียนมาร์ จะได้หนีมาทำเพิ่มในกัมพูชา เอื้ออังเคิลฮุนเซนหรือไม่ ?
… โรม ก็น่าจะตั้งทักษิณชินวัตร ว่า ข่าวที่ให้นายเบนจามิน สมิธ ซื้อเครื่องบินเจ็ตให้ จริงหรือไม่ ? เอาเงินที่ไหนซื้อ ? เส้นทางการเงินเป็นอย่างไร ? นายทักษิณไปสนิทสนมกับนายเบนจามิน สมิธซึ่งติดรายชื่อกลุ่มสแกมเมอร์ และ มีข่าวเป็นที่ปรึกษาของฮุนเซนได้อย่างไร ?
การเจาะเครือข่าย “ตระกูล ฮุน-ชินฯ” นี้ จะพุ่งเป้าตรงไปที่แหล่งสแกมเมอร์อย่างเข้าเป้า ทำให้ประชาธิปไตยไทย “ใส” “ไม่เทา” ได้ขึ้นมาก แต่พรรคส้มกลับไม่ทำ และมุ่งแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ “ฉบับปราบโกง” มาโดยตลอด โดยแบ่งชุดประเด็นออกเป็น 7 แพ็กเกจ ก็สร้างข้อสงสัยมากมายว่า จะร่างให้เป็น รัฐธรรมนูญฉบับ “ส้มเทา” หรือไม่ ?
แพ็กเกจ 1 เป็นการโทษว่า ปัญหาบ้านเมือง มาจากรัฐประหาร ไม่ใช่พวกเอาประชาธิปไตยของคนไทยมาใช้โกงชาติ จริงๆแล้ว มีรัฐประหารสมัย จอมพล ป., จอมพล สฤษดิ์, จอมพลถนอม, พลเอกสุจินดา ซึ่งพรรคการเมืองดีๆใสๆ ก็ต่อสู้มาตลอดหลายสิบปี แต่รัฐประหารสมัยหยุด “รัฐบาลทักษิณโกงชาติเอื้อชินฯ” หรือ หยุด “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โกงจำนำข้าว” ก็เกิดขึ้นหลังจากประชาชนผู้รัก “ประชาธิปไตยใส” ต้องการขับไล่ “ไทยเทา” ให้ออกจากอำนาจ แต่รัฐยังดื้อดึงในอำนาจ กดขี่ประชาชนคนรักความสุจริต จึงมีรัฐประหารชั่วคราวก่อนจัดให้เลือกตั้งใหม่ ประเด็นเหล่านี้ “ส้มเทา” ก็ไม่เล่าให้ชัดเจนเช่นเคย
ตอนคลิปเสียงอุ๊งอิ๊งออกมา ประชาชน “ทุกสี” ทนไม่ได้ ที่นายกฯอุ๊งอิ๊งยอมอังเคิล และ เห็นแม่ทัพภาค 2 ปกป้องชาติเป็นศัตรู ออกมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ “ส้มเทา” กลับเลือกจะบอกว่า ประชาชนไม่ควรร่วม จะเรียกรัฐประหาร ทั้งที่ประชาชนที่มา ไม่มีประโยชน์ทางการเมือง เคยชอบพรรคการเมืองต่างๆกัน แต่มารวมกันเพราะ “รักชาติไทย” เหมือนกัน นั่นก็เพราะ พรรคส้มต้องการรักษาเรื่องเท็จที่ว่า ปัญหานี้ “เริ่มที่รัฐประหาร” ทั้งที่เรื่องจริงคือ “เริ่มจากนักการเมืองโกงชาติ หรือ ขายชาติ” จนประชาชนทนไม่ได้ แสดงออกทางการเมืองอย่างสุจริตตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมา รัฐประหาร 2 ครั้งหลัง ก็มาแก้ปัญหาให้ประชาชนกลุ่ม “ต้านโกง” หรือเรื่องจริงอย่างนี้ “ส้มเทา” รับไม่ได้ ? เพราะ จะต่างกับเรื่องที่ “โกหก” ประชาชนเอาไว้ หรือไม่ ?
แพ็กเกจ 2 ตีกรอบเพื่อลดอำนาจ ศาล รัฐธรรมนูญ – องค์กรอิสระ ก็เสี่ยงที่จะทำให้การ “ต้านโกง” ลดกำลังการตรวจสอบลง และ ท่าทีของ “ส้มเทา” ก็ยืนยันธาตุแท้ พรรคส้มได้เป็นอย่างดี
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้อุ๊งอิ๊งออกจากตำแหน่งเพราะขาดจริยธรรมจริง นาย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิหัวหน้าพรรคส้ม กลับเน้นจุดยืนว่า “เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือ มาตรฐานจริยธรรม เป็นเรื่องที่เปิดให้มีการใช้ดุลยพินิจได้ตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ” และ พรรคส้ม จึงต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับ “ต้านโกง” นี้ก่อนพรรคส้มจะเข้าบริหารบ้านเมือง ? นั่นคือธาตุแท้แบบ “ส้มเทา” หรือไม่ ? การไม่พูดถึงการขาดจริยธรรมในการสื่อสารใต้อำนาจอังเคิล ซึ่งเป็นอริราชศัตรู เป็นไปตามดีลลับ “แดง-ส้ม ฮั้วการโกหก” หรือไม่ ? เพราะไม่ต้องการยอมรับความเที่ยงธรรมของศาลรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ ?
พรรคส้มควรเรียนรู้ว่า ครอบครัวนี้ โกงสุดซอย ใช้อำนาจจากการเลือกตั้งสุดซอย แม้โกงแล้ว จำนนต่อหลักฐานแล้ว ยังหวังจะเอาอำนาจนิติบัญญัติจากการเลือกตั้ง มาบิดเบือนอำนาจตุลาการ ซึ่งนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่ประชาชนพึงได้รับอำนาจอธิปไตยทั้งด้านบริหาร นิติบัญญัติ และ ตุลาการที่เป็นอิสระต่อกัน
แพ็กเกจ 3 เพิ่มกลไกตรวจสอบการทุจริต ก็ “หลอกประชาชน” ถ้าแน่จริง เอากรณี ปลอมหนี้ ซุกหุ้นสัมปทานฯ ใช้นโยบายเอื้อทุจริต แบบที่ทักษิณทำ กลไกของที่พรรคส้มเสนอ จะป้องกันได้อย่างไร ? การโกงตลอดกระบวนการจำนำข้าว จะป้องกันได้อย่างไร ? หรือ ส้มเทา “ฮั้วโกหก” ไม่สนใจเรื่องใหญ่ของนักการเมือง สนแค่เรื่องระบบทั่วๆไปใช้บังหน้ากลโกง
แพ็กเกจ 5 ปฎิรูปกองทัพ ก็เป็นไปตามเรื่องที่ “ฮั้วโกหก” ประชาชนไว้ พิธาตั้งคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม ?” “ยุคนี้เขาไม่รบกันแล้ว” “แล้วถ้ารบกัน ผม(พิธา) ก็ไม่คิดว่าคุณจะชนะ” และ คนในพรรคก็อภิปรายว่า เอางบทหารไปซื้อผ้าอนามัย เอาค่ายทหารเป็นที่ทิ้งขยะ เอางบรถถังไปซื้อรถไถ ถ้ามีทัศนคติเช่นนี้ เจอคนเจ้าเล่ห์อย่างฮุนเซน ร่วมกับคนไทยที่ทำตัวราวไส้ศึกอย่างทักษิณ ประเทศจะยังรักษาอธิปไตยบนแผ่นดินไทยได้หรือไม่ ?
เมื่อมีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา พรรคส้ม ยังมุ่งดิสเครดิตกองทัพ สกัดความสามารถและประสิทธิภาพในการปกป้องแผ่นดิน ต่อต้านอริราชศัตรู สส. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ พรรคประชาชน ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร บอกว่า “พื้นที่ 11 แห่ง ไม่ใช่พื้นที่ไทย แต่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์” ทั้งที่เป็นของไทยตามสนธิสัญญาปี 1907 เพียงแต่คิดอย่างคนไร้ความรับผิดชอบ เอาเรื่องเป้าดิสเครดิตทหารเหนือกว่าเรื่องประเทศชาติ
เมื่อพรรคส้ม ทำงานการเมืองแบบ ถนอม “ไทยเทาแท้” โรมดูหล่อ แต่ไม่เคยเอาจริงกับครอบครัวชินวัตร ซึ่งมีความสำคัญกว่าการทอดกฐินของธรรมนัสมาก เพราะ เป็นผู้มีอำนาจ และ ครอบครัวทักษิณใกล้ชิดกับฮุนเซนผู้จัดการให้ประเทศกัมพูชาเป็นศูนย์สแกมเมอร์ของโลกมาก โรมจะอ้างว่า เขาลงจากอำนาจไปแล้วก็ไม่ใช่ เพราะ นั่นแปลว่า พรรคส้ม เอาอำนาจผ่านสภาฯ หรือ คณะกรรมาธิการ เพียงเพื่อผลทางการเมืองหรือ ? หรือ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ? ถ้าเอาประโยชน์ชาติ ก็ต้องขุดเจาะแหล่งซ่อนทรัพย์ สแกมเมอร์ ความสัมพันธ์ ทักษิณ-ฮุนเซน-เบนจามิน สมิธ-ยิม เลียก จึงต้องจริงจัง ไม่ละเว้น และ ไม่ใช่รอเฉย
ถ้าพรรคส้ม ยังทำงานแบบ “ส้มเทา” เช่นนี้ ประชาชนจะเชื่อใจการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้เป็นฉบับ “ส้มเทา” ได้อย่างไร ?
ไทยทน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้

