
บ้านปู เน็กซ์ ผนึก อมตะ วีเอ็น และโซลาร์บีเค ขยายพอร์ตโฟลิโอ ลุยโครงการติดตั้งระบบโซลาร์ที่ อมตะซิตี้ ฮาลอง และอมตะซิตี้ ลองถั่น 227 เมกะวัตต์ รับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
4 พ.ย. 2568 – นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บ้านปู เน็กซ์ ได้ร่วมมือกับ บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) และกลุ่มโซลาร์บีเค ในการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 227 เมกะวัตต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะในประเทศเวียดนาม 2 แห่ง ได้แก่ อมตะซิตี้ ฮาลอง และอมตะซิตี้ ลองถั่น เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในเวียดนาม โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสำหรับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ พร้อมสะท้อนความมุ่งมั่นของทั้งสามบริษัทในการลดการปล่อยคาร์บอน และสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ของเวียดนาม
“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอมตะ วีเอ็น เป็นก้าวสำคัญในการขยายพอร์ตฟอลิโอของเราในเวียดนาม และถือเป็นการบรรลุเป้าหมายระยะแรกของการร่วมทุนกับโซลาร์บีเค เราตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยนำความเชี่ยวชาญของเราผสานกับจุดแข็งของพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางพลังงานและความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมเวียดนามด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืน”นายสมิทธิพร กล่าว
นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมผ่านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีประสบการณ์กว่าสามทศวรรษในเวียดนาม ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่วิสัยทัศน์ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2583 การบูรณาการโซลาร์รูฟท็อปเข้ากับนิคมอุตสาหกรรมของเราที่กำลังดำเนินการและอยู่ระหว่างพัฒนา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ผลิตระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการประหยัดต้นทุนพลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยในการเลือกทำเลที่ตั้งโรงงาน อีกทั้งยังช่วยพลิกโฉมนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสีเขียวที่สร้างสมดุล
นายเหวียน เยือง ต๋วน กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มโซลาร์บีเค กล่าวว่าการผนึกกำลังระหว่างสามบริษัทไม่เพียงต่อยอดความร่วมมือกับบ้านปู เน็กซ์ แต่ยังเป็นการนำประสบการณ์เกือบ 20 ปีของบริษัทในวงการโซลาร์ของเวียดนามมาสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของอมตะ เมื่อนำระบบโซลาร์แบบครบวงจรผนวกกับโครงสร้างพื้นฐานของนิคมฯ จะสามารถสร้างโมเดลพลังงานยั่งยืนที่ตอบสนองความต้องการทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจ และเป็นหมุดหมายสำคัญในภารกิจขับเคลื่อนการใช้พลังงานหมุนเวียนในอุตสาหกรรมและเปลี่ยนผ่านเวียดนามสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทั้งสามบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนของเวียดนามต่อไป โดยมีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีและบริการด้านพลังงานสะอาดอื่นๆ มาใช้ อาทิ ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือสมาร์ทกริด และระบบจัดการพลังงาน ทั้งยังมุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอนาคตที่ยั่งยืนของเวียดนาม

