
กสทช. เปิดประมูลคลื่นวิทยุในระบบเอฟเอ็ม ครั้งแรกของประเทศไทย จำนวน 71 คลื่นความถี่
21 ก.พ. 2565 – นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2565) สำนักงาน กสทช. ได้จัดการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการทางธุรกิจ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ โดยการประมูลคลื่นวิทยุในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านระบบการใช้งานคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงไปสู่ระบบการอนุญาต มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล จำนวน 71 คลื่นความถี่ แบ่งเป็นความถี่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 8 คลื่นความถี่ ภาคเหนือ จำนวน 16 คลื่นความถี่ ภาคกลาง จำนวน 6 คลื่นความถี่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 21 คลื่นความถี่และภาคใต้ จำนวน 20 คลื่นความถี่
สำหรับราคาเริ่มต้นการประมูลคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียงในครั้งนี้ ได้มีการคำนวณโดยคำนึงถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ให้บริการในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมณฑล มีราคาเริ่มต้นการประมูลสูงสุดอยู่ที่ 54,8300,000 บาท ส่วนพื้นที่ให้บริการในเขตภูมิภาคราคาเริ่มต้นการประมูลต่ำสุดคือ 105,000 บาท โดยการเสนอราคาแต่ละคลื่นจะแปรผันไปตามมูลค่าคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง โดยการเสนอราคาต่อครั้งสูงสุดคือ 500,000 บาท และต่ำสุดคือ 4,000 บาท เบื้องต้นคาดว่าการประมูลครั้งนี้จะสร้างรายได้จากการประมูล ประมาณไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่หลังหักค่าใช้จ่ายในการประมูล จะนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป
ทั้งนี้ การประมูลจะแบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 60 นาที รอบแรกเริ่มประมูลเวลา 09.30-10.30 น. จำนวน 18 คลื่นความถี่ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 8 คลื่นความถี่ ภาคกลาง 6 คลื่นความถี่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 คลื่นความถี่ รอบที่ 2 เริ่มประมูลเวลา 11.30-12.30 น. จำนวน 22 คลื่นความถี่ แบ่งเป็นภาคเหนือ 10 คลื่นความถี่และภาคใต้ 12 คลื่นความถี่ รอบที่ 3 เริ่มประมูลเวลา 13.30-14.30 น. จำนวน 18 คลื่นความถี่ แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 คลื่นความถี่และภาคเหนือ 6 คลื่นความถี่ และรอบที่ 4 เริ่มประมูลเวลา 15.30-16.30 น. จำนวน 13 คลื่นความถี่ แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 คลื่นความถี่และภาคใต้ 8 คลื่นความถี่ หลังจากการประมูลเสร็จสิ้น จะมีการประชุม กสทช. เพื่อรับรองผลการประมูลและสำนักงาน กสทช. จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล
โดยผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เท่ากับราคาที่ชนะการประมูลรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ภายใน 30 วัน หากไม่ชำระให้ครบถ้วนตามเวลาที่กำหนดจะถูกริบหลักประกันและห้ามเข้าร่วมการประมูล 2 ปี พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายในกรณีที่ต้องจัดประมูลใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วิโรจน์' จี้ถาม 'ธปท.-กสทช.' ถ้า ปชช.ดนสแกมเมอร์หลอก จะไปขอหน่วยงานไหนรับเรื่อง
วิโรจน์ บอกมาตรา 8/10 พ.ร.ก.ไซเบอร์ ฉบับที่ 2 กำหนดให้ธนาคาร และเครือข่ายมือถือร่วมรับผิดชอบ
NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ ‘สายด่วน 1818’
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดให้บริการ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน “1818” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
ทรู สนับสนุนกสทช.และตำรวจ ร่วมสกัดขบวนการ SIMBOX ลดช่องโหว่ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมไซเบอร์ และเสริมมาตรฐานความปลอดภัยดิจิทัลของประเทศ
ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการป้องกันภัยไซเบอร์และโทรหลอกลวง. ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัลของประเทศ
'มท.2' ตีปี๊บ ระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติไทย มาตรฐานเทียบเท่าสากล
'มท.2' โวระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติไทย มาตรฐานเทียบเท่านานาชาติ ต่างประเทศยกย่อง บูรณาการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงาน
กสทช.แจงเสาสัญญาณบนภูมะเขือเป็นเครือข่ายของกัมพูชา
กสทช.แจงเสาสัญญาณบนภูมะเขือเป็นเครือข่าย smart ของกัมพูชา ไม่ใช่ของบริษัทไทย
กสทช. ผุดแคมเปญ “รู้ก่อน รอดก่อน ปลอดภัยไปกับ กสทช.” ปักธงต้านภัยไซเบอร์ที่กาญจนบุรี
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ยกระดับการป้องกันการหลอกลวงประชาชนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการส่ง SMS ปลอม

