
18 พ.ย. 2568 – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า การเจรจาภาษีตอบโต้สหรัฐยังเดินหน้าตามกรอบเดิม พร้อมเผยประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ รับทราบและยอมรับหลักการแยกประเด็นการค้าออกจากการเมืองแล้ว ล่าสุดได้มอบหมายให้รมว.พาณิชย์เร่งสร้างความเข้าใจกับทูตสหรัฐเพื่อให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้ การเจรจายังคงเดินหน้าตามกรอบเดิม และยังมีเป้าหมายปิดการเจรจาให้ได้ภายในสิ้นปี 2568 ตามโรดแมปที่กำหนดไว้ โดย ทีมยุทธศาสตร์การเจรจาของไทยได้ประชุมนอกรอบร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจในสหรัฐฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ล่าสุด พร้อมยืนยันท่าทีร่วมกันว่า “นโยบายเดิมยังเดินหน้าต่อ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
นายเอกนิติ กล่าวว่า ความต่อเนื่องของกระบวนการเจรจาและหลักการที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ร่วมกัน และคาดว่าประเด็นภาษีจะมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งที่สำคัญที่ไทยยืนยันกับสหรัฐฯ คือ การแยกเรื่องการเมืองออกจากประเด็นการค้าอย่างเด็ดขาด โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้หารือเรื่องนี้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งการพูดคุยของผู้นำทั้ง 2 ประเทศถือเป็น “ข้อมูลล่าสุดที่สุด” และเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะไม่เชื่อมโยงการเมืองกับการเจรจาการค้า
ขณะเดียวกันในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (18 พ.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการคนละครึ่งพลัสเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการเติมเงินให้กับพ่อค้าแม่ค้าในโครงการคนละครึ่งพลัส ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) เพื่อยกระดับศักยภาพร้านค้ารายย่อยให้สามารถปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ด้วยการเติมเงินให้รายละไม่เกิน 2,000 บาท เชื่อว่าจะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการคนละครึ่งพลัส ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 17 พ.ย. 68 ณ เวลา 15.00 น. มีการใช้จ่ายแล้ว 42,960 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐร่วมจ่าย 21,188 ล้านบาท และประชาชนร่วมจ่าย 21,772 ล้านบาท มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 940,700 ราย โดยประชาชนที่ได้รับสิทธิ ใช้สิทธิเต็มจำนวนแล้ว 883,104 ราย ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับสิทธิ ต้องใช้สิทธิภายในวันที่ 31 ธ.ค. 68 เท่านั้น หากไม่ใช้สิทธิ เงินที่เหลือจะไม่สามารถใช้ได้ เพราะรัฐจะยุติการสนับสนุนทันที
ส่วนกรณีที่รัฐจะเติมเงินคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นั้น กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด ว่าจะเติมเงินให้คนละเท่าไร ซึ่งพิจารณาจากแหล่งเงินที่นำมาใช้ เพราะไม่ได้จัดสรรงบประมาณล่วงหน้า แต่เบื้องต้นคาดว่า จะเติมเงินให้อีกไม่เกินคนละ 4,000 บาท ซึ่งจะจัดสรรตามสัดส่วนเดิม คือ ผู้เสียภาษี และผู้ไม่อยู่ในระบบภาษี เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อสะดวกในการให้ความช่วยเหลือสวัสดิการรัฐในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลอัดฉีดแพ็กเกจใหญ่ เพิ่มสภาพคล่อง SME มาตรการสินเชื่อ-คืนภาษี วงเงิน 3.27 แสนล้าน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบมาตรการ “Quick Big Win เพื่อ SMEs ไทย
นายกฯลงหาดใหญ่ครั้งที่ 5 นำทีมเศรษฐกิจหารือช่วยเหลือผู้ประกอบการ
นายกฯนำทีมเศรษฐกิจ-หน่วยงานการเงิน บินลงหาดใหญ่รอบที่ 5 คุยผู้ประกอบการ พร้อมลงพื้นที่สำรวจความเสียหายย่านธุรกิจตลาดกิมหยง ด้าน ‘ศุภจี’ยันมีมาตรการช่วยเหลือแน่นอน


