ตั้งเป้าอ้อยลดฝุ่นน้อยกว่าเดิม คาดเข้าหีบปี 68/69 ลดเหลือ 10%

กอน.ตั้งเป้าลดอ้อยเผาเข้าหีบ ฤดูกาลผลิตปี 2568/69 เหลือ 10% เดินหน้าลดฝุ่น PM 2.5 พร้อมเคาะวันเปิดหีบคาด อ้อยเข้าหีบปี 68/69 กว่า 93 ล้านตัน

19 พ.ย. 2568 – นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2568 ซึ่งมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ได้กำหนดเป้าหมายลดสัดส่วนอ้อยเผาที่จะเข้าหีบ 2568/69 ลดลงเหลือ 10% รวมถึงได้มีมติเห็นชอบกำหนดวันเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2568/69 ของ 58 โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามการรับอ้อยเผาเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2567/68 คือ

กลุ่ม 1 : โรงงานที่รับอ้อยเผาไม่เกิน 5% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2568 จำนวน 9 โรงงาน

กลุ่ม 2 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 5.01% – 15.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2568 จำนวน 17 โรงงาน 

กลุ่ม 3 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 15.01% – 25.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2568 จำนวน 30 โรงงาน กลุ่ม 4 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 25.01% ขึ้นไป เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2569 จำนวน 2 โรงงาน ถือเป็นครั้งแรกที่บอร์ด กอน. มีมติให้เปิดหีบอ้อยโดยแบ่งกลุ่มตามเปอร์เซ็นต์ของโรงงานน้ำตาลที่รับอ้อยเผาเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2567/68 และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบประมาณ 93 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีการผลิตที่ผ่านมา 1.9% เนื่องจากน้ำฝนมีปริมาณและการกระจายตัวที่ดีกว่าปีก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน บอร์ด กอน. ยังมีมติเห็นชอบอีกประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2567/68 เฉลี่ยทั่วประเทศที่ราคา 1,152.62 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. ลดลง 7.38 บาท จากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2567/68 ที่ราคา 1,160 บาทต่อตันอ้อย และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย เท่ากับ 69.16 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 493.89 บาทต่อตันอ้อย

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2568 ที่ได้เห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 จากเดิมสิ้นสุดเดือนก.ย. 2568 เป็นสิ้นสุดเดือนธ.ค. 2568 เพื่อให้ชาวไร่อ้อยที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 5,000 ราย คิดเป็น 4.23% ของจำนวนชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ทั้งหมด ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการฯ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสด และถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจของไทยได้ในระดับหนึ่ง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายภายในเดือนพ.ย. 2568 เป็นต้นไป

“หลังจากบอร์ด กอน. กำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิตปี 2567/68 ขณะนี้ สอน. ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ สอน. จะทำหนังสือขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศจ่ายเงินค่าอ้อยให้กับเกษตรกรไปก่อน เพื่อจะได้มีเงินสำหรับไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเพาะปลูก การบำรุงรักษาอ้อย และดำรงชีพต่อไป” นายใบน้อย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง