'พิพัฒน์' ลุยถกแอร์ไลน์คลี่ปมตั๋วเครื่องบินแพง

‘พิพัฒน์’ ยกหูหารือนายกสมาคมสายการบินฯ หลังเอกชนร้องเรียนตั๋วแพง เส้นทางหาดใหญ่-พื้นที่ภัยพิบัติ พร้อมหาทางออก สรุปเคาะเพิ่มเที่ยวบิน–เพิ่มที่นั่ง ดันราคาตั๋วปรับลดลง ด้าน กพท.จับตามอนิเตอร์ตรวจสอบราคาตั๋วตามข้อสั่งการนายกฯ

2 ธ.ค.2568-นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เปิดเผยกรณีราคาบัตรโดยสารเครื่องบินโดยเฉพาะช่วงที่เกิดน้ำท่วม ภาคใต้เส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ มีราคาสูงมากนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่นิ่งนอนใจได้ประสานงานกับ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ในฐานะนายกสมาคมสายการบินในประเทศจำนวน 7 สายการบินในไทย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท เพื่อหาทางออกให้ราคาตั๋วโดยสารให้ประชาชนที่จะเดินทางเส้นทางหาดใหญ่ราคาลดลงจากที่เป็นอยู่ เนื่องจากขณะนี้จังหวัดสงขลาประสบเหตุภัยพิบัติทั้งเมือง

ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันทางสมาคมสายการบินในประเทศยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล แต่ข้อจำกัดของการกำหนดราคาค่าโดยสารในแต่ละเส้นทางบินนั้น ต้องยอมรับว่า แต่ละสายการบินยังไม่ได้มีการขายตั๋วโดยสารเกินกว่าที่ทาง คณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กบร.)กำหนดเพดานราคาขั้นสูงแต่อย่างใด ดังนั้นทางออกทางสายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินให้มีเที่ยวบินที่จะลงไปจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยพิบัติให้มากขึ้น ซึ่งเมื่อเที่ยวบิน และจำนวนที่นั่งมากขึ้น ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินเส้นทางบินในประเทศก็จะปรับลดลงทันทีตามความต้องการ และที่นั่งที่เพิ่มขึ้น

“จากการตรวจสอบพบว่าแต่ละสายการบินในประเทศ ที่ทำการบินลงในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดพื้นที่ประสบภัยพิบัติในภาคใต้ ไม่ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ขณะที่ราคาค่าโดยสารยังไม่ได้เกิดเพดานขั้นสูงสุดที่ กบร.กำหนด ดังนั้นทางออกจึงขอให้แต่ละสายการบินเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งมากขึ้น ซึ่งในช่วงนี้มีประชาชนลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือจำนวนมาก ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินจะช่วยทำให้ราคาค่าโยสารลดลงทันที อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ ได้รายงานและทำความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงให้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว”นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตั๋วเครื่องบินที่จองแบบกระชั้นชิดยังคงมีราคาสูง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบราคาที่ขึ้นกับช่วงเวลาและความต้องการเดินทาง แต่ในภาพรวมขณะนี้ราคาตั๋วได้ลดลงชัดเจนหลังสายการบินตอบสนองต่อข้อเสนอแนะและเพิ่มเที่ยวบินแล้ว สำหรับปรัเด็นที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีเสียงร้องเรียนจากภาคเอกชนที่เป็นประธานหอการค้า ซึ่งได้รายงานปัญหาโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี ทำให้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับประเด็น

ด้านนายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย CAAT  หรือ กพท.สายงานพัฒนาเศรษฐกิจการบิน ระบุว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการซื้อตั๋วโดยสารเกิดขึ้นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ที่นั่งราคาประหยัดและราคาปกติถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้ที่นั่งที่เหลือในระบบเป็นที่นั่งราคาสูงตามโครงสร้างค่าโดยสาร ซึ่งเป็นไปตามกลไก Dynamic Pricing ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการบริหารรายได้ของสายการบินสากลทั่วโลก ทั้งนี้ กพท. ได้ประสานสายการบินทุกรายให้พิจารณาขยายมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสาร รวมทั้งบริหารจัดการราคาตั๋วโดยสารให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อรองรับความจำเป็นในการเดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส กพท.ได้เชิญทุกสายการบินที่ให้บริการเส้นทางภาคใต้เข้าชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งสายการบินยืนยันว่า หากมีการยกเลิกเที่ยวบิน ผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 101 โดยสายการบินต้องเสนอทางเลือกการคืนเงินเต็มจำนวน หรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามหากเที่ยวบินไม่ได้ถูกยกเลิก แต่ผู้โดยสารไม่ประสงค์จะเดินทางในวันดังกล่าว สายการบินจะเปิดให้เปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้สามารถติดต่อสายการบินได้โดยตรง และหากผู้โดยสารไม่ได้รับการคุ้มครองตามข้อบังคับ กบร.101 สามารถร้องเรียนได้ที่ complaint.caat.or.th

นายศรัณย กล่าวว่าจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ตรวจสอบกรณีร้องเรียนว่าสายการบินยกเลิกเที่ยวบินเดิมและให้ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารใหม่ในราคาสูงกว่าเดิมนั้น กพท.ได้ตรวจสอบข้อมูลข้อร้องเรียนทั้งหมดภายในระบบในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ยังไม่มีข้อร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวในทุกเส้นทางบิน และไม่พบพฤติกรรมเอาเปรียบผู้โดยสารจากการตรวจสอบหน้างานของสายการบินและท่าอากาศยาน แต่ กพท.จะยังคงตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานอื่นที่รับเรื่องร้องเรียน เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการเป็นไปตามกฎหมายและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน

อย่างไรก็ตาม กพท.จะติดตามสถานการณ์ด้านราคา ปริมาณการเดินทาง และข้อร้องเรียนอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หากพบการฝ่าฝืนกฎหมาย รวมถึงเร่งประสานงานกับทุกสายการบินเพื่อให้การเดินทางเข้าพื้นที่ภาคใต้เป็นไปอย่างสะดวกที่สุดในช่วงฟื้นฟูจากสถานการณ์น้ำท่วม