ส.อ.ท. ชี้สถานการณ์ ‘ไทย-กัมพูชา’ กระทบการค้าลดลงเกือบ 100% เผยยังต้องรอดูท่าทีสหรัฐ กรณีเจรจาการค้า

ส.อ.ท. ชี้สถานการณ์ปะทะชาย ‘แดนไทย-กัมพูชา’ ส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจและการค้าชายแดน เดิมกระทบการค้าขายมูลค่า 500 ล้านบาทต่อวัน ยิ่งทำให้การค้าขายต่อวันลดลงเกือบ 100% ย้ำการเจรจาการค้าภาษีสหรัฐ ยังต้องรอดูท่าทีสหรัฐ ส่งแรกที่ต้องทำคือ อพยพประชาชน และเร่งจบสถานการณ์โดยเร็ว

10 ธ.ค. 2568 – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน “ไทย-กัมพูชา” ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนและการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนยืนยันกัมพูชายั่วยุ ผิดสนธิสัญญา โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ กัมพูชาเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์และยั่วยุอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการกระทำที่ผิดต่อสนธิสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง นั่นคือการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ การยั่วยุอย่างต่อเนื่องนี้รวมถึงการวางกับระเบิดในเขตประเทศ ทำให้ทหารไทยต้องสูญเสีย

ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้นำเอาหลักฐานที่ชัดเจนไปชี้แจงล่าสุด โดยเฉพาะหลักฐานที่ได้จากโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากทหารกัมพูชาในการรบครั้งแรก ๆ โดยหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์ และมีการบันทึกการสาธิตหรือโชว์การวางระเบิดไว้ในเครื่อง ทำให้ผู้แทนของกัมพูชาที่เข้าร่วมประชุมแสดงความตกใจและพยายามคัดค้านไม่ให้มีการนำเสนอ ทั้งนี้ หลังจากการนำเสนอหลักฐานไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทางกัมพูชาใช้เครื่องยิงต่าง ๆ ยิงเข้ามาที่ฐานของไทย ซึ่งทำให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บและมีการปะทะด้วยปืนเล็ก และมีการปะทะด้วยปืนต่อต้านที่มีศักยภาพการทำลายที่รุนแรงขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2568 ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเช้า กองทัพอากาศจึงได้ส่งเครื่องบิน F16 ไปทิ้งระเบิด ในจุดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่เป็นแหล่งซ่องสุม หรือมีการติดตั้งอาวุธร้ายแรงที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย

นายเกรียงไกร กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งนี้ส่งผลกระทบต่อเรื่องที่สหรัฐเคยใช้เป็นเงื่อนไขผูกติดไว้ ซึ่งในปัจจุบัน สหรัฐฯ โดย USTR ได้มีจดหมายอย่างเป็นทางการมายังประเทศไทย เพื่อขอให้ “หยุดกระบวนการเจรจา” กับสหรัฐฯ ผ่าน USCR ไปก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ยังคงเอาเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขอยู่ สถานะของการเจรจาจึงเท่าเดิม คือหยุดไว้และไม่มีการเจรจาเพิ่มเติม ดังนั้น ประเทศไทยต้องชี้แจงและทำความเข้าใจกับสหรัฐฯ โดยยืนยันถึงหลักฐานที่มีอยู่ว่าค่อนข้างชัดเจน ดังนั้น ตอนนี้อาจจะต้องรอดูท่าทีของสหรัฐฯ อีกครั้งในเรื่องของการเจรจาภาษี

สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่ชัดเจนที่สุดคือ การปะทะชายแดนได้นำไปสู่การอพยพผู้คนชาวไทยออกนอกพื้นที่หลายแสนคน ในหลายจังหวัดที่มีเขตชายแดนติดต่อกัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต ซึ่งการอพยพนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ปัจจุบันตัวเลขการซื้อขายและการค้าขายกับชายแดนกัมพูชาลดลงเหลือเพียง 0.5% ซึ่งนั่นหมายความว่าการค้าขายได้หายไปถึง 99.5% อีกทั้ง ตามสถิติของกรมศุลกากรสถานการณ์นี้เหมือนกับการปิดด่านเกือบถาวรแล้ว ซึ่งการปิดด่านที่ผ่านมาก็กระทบการซื้อขายกันต่อวันที่ 500 ล้านบาท

“การอพยพยังทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพต้องหยุดชะงัก หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดลง เช่น การทำภาคการเกษตร (ทำนา ทำไร่) ไม่ได้ รวมถึงโรงงานและโรงเรียนต้องหยุดเพื่อความปลอดภัย การค้าขายในบริเวณ 3-4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบก็ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะคำนวณมูลค่าความเสียหายที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้และหวังว่าประเทศไทยจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้สถานการณ์ยืดเยื้อเกินไป เพราะสิ่งที่กระทบเพิ่มขึ้นคือขวัญและกำลังใจของประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน”นายเกรียงไกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! ผบ.กองกำลังบูรพา เซ็นคำสั่งเคอร์ฟิว 4 อำเภอ จ.สระแก้ว

พลตรี เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ลงนามในคำสั่งประกาศกองกำลังบูรพา ที่ 166 / 2568 เรื่อง ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด

อ.เฉลิมพระเกียรติ ยังต้องอพยพประชาชนแม้อยู่ห่างชายแดน เหตุปะทะไทย-กัมพูชารุนแรงขึ้น

การปะทะรุนแรงต่อเนื่อง นายอำเภอสั่งอพยพเพิ่ม หวั่นประชาชนไม่ปลอดภัย เผยศูนย์อพยพยังขาดแคลนอาหาร แพมเพิสเด็ก นม ขณะชาวบ้านผู้อพยพต่างสาปแช่งเขมรขอให้ฉิบหาย ไม่คิดถึงในหลวง ร.9 ที่เคยช่วยเหลือมาโดยตลอดตอนที่เขมรลำบาก

เขมรยิง BM-21 ใช้โดรนพลีชีพ โจมตีฐาน ตชด. ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 8 นาย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังฝ่ายกัมพูชาได้ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พร้อมใช้ โดรนสังหาร (Killer Drone) โจมตีฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดน บริเวณชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ

เปิดตัวพรรครักชาติ 'ชัยวุฒิ' นั่งหัวหน้า ซัดเดือด 'เท้ง' ไม่รู้เรื่องก็อย่าเสือก ให้ทหารทำหน้าที่ไป

เปิดตัว "พรรครักชาติ" พร้อมกก.บห. "ชัยวุฒิ" นั่งหัวหน้า ลั่นเป็นพรรคไร้กลุ่มทุน ไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร ชี้การเมืองวนเวียนอยู่ไม่กี่ตระกูล ฟาด พรรคขายฝันปมชายแดน ไม่รู้เรื่องก็อย่าเสือก ปล่อยทหารทำหน้าที่ไป