'ธ.ก.ส.' โอนเงินค่าสินไหมประกันภัยข้าวนาปี-ข้าวโพดกว่า 1.5 พันล้าน

ธ.ก.ส. โอนเงินค่าสินไหมทดแทนแก่เกษตรกรในโครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2564 จำนวนกว่า 1.5 พันล้านบาท ช่วยบรรเทาความเสียหายและลดความเสี่ยงด้านการผลิตแก่เกษตรกรกว่า 1 แสนราย พื้นที่การเกษตรกว่า1.2 ล้านไร่

5 มี.ค. 2565 -นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.มุ่งดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการสร้างภูมิคุ้มกันและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตโดยใช้การประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นเครื่องมือคุ้มครองความเสียหายจากกรณีเกิดภัยธรรมชาติและมีเป้าหมายในการทำประกันภัยบนพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศกว่า 46 ล้านไร่

ปัจจุบันโครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาการประกันภัย โดยธ.ก.ส. ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัยข้าวนาปีไปแล้วจำนวน 12 ครั้ง เป็นเงินกว่า 1,522 ล้านบาท พื้นที่เสียหาย 1.2 ล้านไร่และประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 8 ครั้งเป็นเงิน 34 ล้านบาท พื้นที่เสียหาย 22,945 ไร่ โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์รวมกว่า 113,931 รายซึ่งประกันคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม/ฝนตกหนักภัยแล้ง/ฝนแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ/พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว/น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ และช้างป่า

โดยโครงการประกันภัยข้าวนาปี ให้วงเงินคุ้มครองจำนวน 1,260 บาทต่อไร่โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,500 บาทต่อไร่ และในกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด โครงการประกันภัยข้าวนาปี ให้วงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้วงเงินคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ ในการดำเนินงาน เมื่อเกษตรกรผู้ทำประกันภัยได้รับความเสียหายจะแจ้งความเสียหายที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่

จากนั้นสำนักงานเกษตรอำเภอทำการส่งข้อมูลไปยังสมาคมประกันวินาศภัย เพื่อประเมินข้อมูลความเสียหายเมื่อตรวจสอบแล้วครบถ้วน สมาคมฯ จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขภายใน 15 วันผ่านระบบธ.ก.ส. จากนั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการโอนเงินค่าสินไหมทดแทน เข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรง

ทั้งนี้ ปีการผลิต 2564 มีเกษตรกรให้ความสนใจทำประกันภัยข้าวนาปี จำนวน 3.59 ล้านรายพื้นที่การเกษตรกว่า 43 ล้านไร่ และประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 96,620 ราย พื้นที่การเกษตรกว่า 1.5 ล้านไร่ ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ ธ.ก.ส. ขอเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเพราะเป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศโลกที่มีแนวโน้มรุนแรงและมีความถี่มากขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บางจากฯ และออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมเสริมศักยภาพผู้นำ ธ.ก.ส. รับมือยุคโลกเปลี่ยน

โลกของภาคการเกษตรกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว จากแรงกดดันด้านภูมิอากาศ ความสำคัญของการใช้ข้อมูล บทบาทของเทคโนโลยี และมาตรฐานตลาดที่เข้มงวดขึ้น ขณะที่เกษตรกรไทยต้องเผชิญความเสี่ยงด้านภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น ทั้งจากฤดูกาลที่ผันผวน ภัยแล้ง น้ำท่วม ศัตรูพืช รวมถึงกฎเกณฑ์ด้านคาร์บอนของประเทศคู่ค้าที่เข้มงวดมากขึ้น

‘คนละครึ่ง’พุ่ง! ทะลุ6.4พันล้าน เชือด55ร้านค้า

ถึงคิวผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันนี้ 13.4 ล้านคน รับ 1,700 บาท โอนเข้าบัญชี 2 งวด 1 พ.ย.และ 1 ธ.ค. ส่วน “คนละครึ่งพลัส” คึกคัก! ใช้จ่ายรวม 5.4 พันล้านแล้ว รัฐบาลเชิญชวนร้านค้าทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการได้

ถึงคิวผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ! วันนี้ 13.4 ล้านคนเตรียมรับเงิน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะถูกโอนเข้าบัญชีทุกวันที่ 1 ของเดือน

ธ.ก.ส. เปิดตัวเงินฝากทองนพคุณรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.15%

ธ.ก.ส. เปิดตัว "เงินฝากทองนพคุณ” ฝากขั้นต่ำครั้งละ 10,000 บาท วงเงินฝากรวมสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย รับดอกเบี้ยทุกเดือนแบบขั้นบันได สูงสุดถึงร้อยละ 2.15 ต่อปี เฉลี่ยทั้งโครงการร้อยละ 1.40 ต่อปี ระยะเวลาฝาก 10 เดือน เปิดรับฝากที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2568 ถึง 15 พฤศจิกายน 2568