กยศ.ลั่นจะพยายามใช้ช่องพ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ กับผู้กู้ผิดนัดชำระ แทนการฟ้องร้อง โดยจัดมหกรรมไกล่เกลี่ย 25-26ก.พ.นี้

28 ม.ค.65- นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของ กยศ. รวมทั้งการจ้างทนายความเพื่อติดตามหนี้นั้น กองทุนขอชี้แจงว่า กองทุนเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลัง ดำเนินการในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน ตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ได้รับโอกาสทางการศึกษาไปแล้ว 6,206,983 ราย เป็นเงินให้กู้ยืมกว่า 680,103 ล้านบาท โดยให้กู้ยืมเฉลี่ยปีละ 26,157 ล้านบาท ที่ผ่านมากองทุนได้ใช้งบประมาณแผ่นดินไปแล้วประมาณ 468,673 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนได้นำเงินที่ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ ที่ชำระคืนกองทุนกลับมาหมุนเวียนในการปล่อยกู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษารุ่นน้อง โดยไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา

ในประเด็นดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของกองทุนนั้น ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 มาตรา 44 ได้ระบุให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 7.5 ต่อปี และห้ามคิดดอกเบี้ยทบต้น ในกรณีผิดนัดการชำระเงินคืนกองทุน คณะกรรมการจะกำหนดให้ผู้กู้ยืมเงินต้องเสียเงินเพิ่มอีกไม่เกินร้อยละ 1.5 ต่อเดือนก็ได้ แต่ที่ผ่านมากองทุนมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปีมาโดยตลอดและปัจจุบันคิดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด กองทุนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.01 และลดอัตราเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืม ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่กองทุนได้รับมานั้น เงินดังกล่าวก็ได้นำมาหมุนเวียนให้กับผู้กู้ยืมรุ่นน้อง สำหรับประเด็นเรื่องการดำเนินคดีนั้น กองทุนเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ได้มีเจตนาหลักในการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อบังคับชำระหนี้ แต่กองทุนมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อมิให้คดีขาดอายุความ ซึ่งจะทำให้รัฐเกิดความเสียหาย

ผู้จัดการกยศ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กองทุนมีการรับชำระหนี้ที่ดีขึ้นมาตลอด เป็นผลมาจากผู้กู้ยืมรุ่นพี่ได้ส่งมอบโอกาสและมีกระบวนการหักเงินเดือน ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา กองทุนได้ชะลอการฟ้อง บังคับคดี และขายทอดตลาด ยกเว้นในคดีที่มีความจำเป็นเนื่องจากจะขาดอายุความ ในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ ทางกองทุน จึงได้ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ไบเทคบางนา ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3 โดยกองทุนจะเชิญผู้กู้ยืมที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะถูกดำเนินคดี เข้ามาทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยผู้กู้ยืมที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยจะไม่ถูกดำเนินคดี มีส่วนลดเบี้ยปรับ ได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี


นอกจากนี้ เมื่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่…) พ.ศ. ….ที่อยู่ระหว่างการขอแก้ไขมีผลบังคับใช้ กองทุนจะมีอำนาจในการปลดภาระผู้ค้ำประกัน โดยกองทุนมีหลักการว่าจะยกเลิกการค้ำประกันของผู้ค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระเงินต้นมาแล้วร้อยละ 25 ของเงินต้นที่ค้างชำระ ซึ่งการใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยดังกล่าวจะเป็นผลดีกับลูกหนี้ ที่จะไม่ถูกดำเนินคดี และกองทุนจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีต่อไปในอนาคต


“ขอยืนยันว่า กองทุนจะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัวว่าน้องๆ ที่ขาดแคลนสามารถกู้เงินได้ทุกคนโดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา” ผู้จัดการกยศ. กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี กยศ. ปรับหนี้รอบสองอีก 4.3 แสนบัญชี

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) คำนวณยอดหนี้ใหม่สำหรับผู้กู้ยืมเงินเพิ่มอีกจำนวนกว่า 430,000 บัญชี โดยจะแสดงยอดหนี้ทางแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

กยศ. ปรับยอดหนี้ใหม่กว่า 5.5 แสนบัญชี เปิดทางผู้กู้ลงทะเบียนขอเงินคืน

กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้เริ่มจากกลุ่มผู้กู้ยืมเงิน จำนวน 556,000 บัญชี เป็นกลุ่มแรก ซึ่ง กยศ. ได้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยโดยจะแสดงยอดหนี้ทางแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

เร่ง กยศ. ทวงหนี้ 3.5 ล้านราย ครบกำหนด 5 ก.ค. ชวนรุ่นพี่คืนเงินต่ออนาคตรุ่นน้อง

รองโฆษกรัฐบาลเผย กยศ. เดินหน้าเร่งรัดหนี้ผู้กู้ 3.5 ล้านราย ส่ง SMS-แจ้งเตือนผ่านแอปครบทุกช่องทาง ก่อนครบกำหนดชำระ 5 ก.ค.นี้ หวังเงินคืนจะช่วยต่อโอกาสทางการศึกษาให้รุ่นน้องกว่า 7.1 ล้านคน

'ปชน.' รุมไล่บี้ 'กยศ' หักเงินเพิ่ม 3 พัน แรงงานเดือดร้อนหนัก

'สส.ประชาชน' โวย 'กยศ.' หักเงินเพิ่ม 3 พันบาท กระทบแรงงาน ทำคนติดหนี้นอกระบบเพิ่ม ซัดทำงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่มี 2 พันล้าน คืนกลุ่มปรับโครงสร้างหนี้ใช่หรือไม่