กรุงเทพฯ เขตควบคุมการเลี้ยงสัตว์

เหล่าคนรักน้องหมาน้องแมวติดตามความคืบหน้าเรื่องการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 เพราะยังมีสับสนจำนวนสัตว์เลี้ยงที่สามารถเลี้ยงได้ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติของเจ้าของสัตว์เลี้ยง ทั้งการจดทะเบียน การฝังไมโครชิฟ ตลอดจนห่วงใยคุณภาพชีวิตหมาแมวจรจัดจะควบคุมดูแลอย่างไร ทั้งนี้ ข้อบัญญัติฯ จะมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังในวันที่ 10 มกราคม 2569 ที่จะถึงนี้  มีเป้าหมายสำคัญเพื่อควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยง  เลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ ยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยง และลดปัญหาสัตว์จรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเชื่อมโยงกับเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยของประชาชน ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายคู่เมืองใหญ่ ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดระบบที่ยั่งยืนเพื่อสร้างเมืองน่าอยู่

ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร รับฟังรายงานความคืบหน้าเรื่องการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2568 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ข้อบัญญัติจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยงและลดปัญหาสัตว์จรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ สำนักอนามัยได้รายงานเพื่อทราบใน 4 ประเด็นใหญ่ๆ  ได้แก่ ภาพรวมข้อบัญญัติและการเตรียมความพร้อม สำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ม.ค.  2569 ซึ่ง กทม. ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาระบบการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์ การหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง NGOs และภาคเอกชน รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ

ประเด็นถัดมาขั้นตอนการจดทะเบียนสุนัขและแมว  ในส่วนของขั้นตอนการจดทะเบียนสุนัขและแมว  1. เจ้าของสัตว์พาสุนัขและแมวไปรับการฉีดฝังไมโครชิป 2. ยื่นคำขอจดทะเบียนสัตว์ (คลส. 2) 3. รับบัตรประจำตัวสัตว์ (คลส. 3)  โดยสามารถพาสุนัขและแมวไปฉีดฝังไมโครชิป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร 8 แห่ง หรือหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ของกรุงเทพมหานคร แต่หากไม่สะดวกสามารถฉีดฝังไมโครชิปที่คลินิก/โรงพยาบาลสัตว์ของเอกชน หรือโรงพยาบาลสัตว์ของรัฐ/คณะสัตวแพทย์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายตามที่แต่ละหน่วยงานกำหนด พร้อมรับใบรับรอง (คลส. 1) เพื่อนำมายื่นคำขอจดทะเบียนสัตว์ต่อไป

สำหรับเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนน้องหมาน้องแมว ประกอบด้วย 1. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของสัตว์ 2. ทะเบียนบ้านที่สัตว์อาศัยอยู่ (ในพื้นที่ กทม.) 3. ใบรับรอง (คลส. 1) และ 4.หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า ในกรณีเป็นผู้เช่า โดยยื่นคำขอจดทะเบียนได้ที่ คลินิกสัตวแพทย์หรือหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งให้บริการครบวงจรทั้งฉีดฝังชิปและจดทะเบียนในที่เดียว  สำนักงานเขต หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางเว็บไซต์ https://petregis.bangkok.go.th/

ผลการฉีดฝังไมโครชิป จากการสำรวจประชากรสุนัขและแมว ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสุนัข 54,860 ตัว มีแมว 124,194 ตัว โดยสุนัขได้รับการฉีดฝังชิปและจดทะเบียนแล้ว 34,296 ตัว คิดเป็น 62.5% แมวได้รับการฉีดฝังชิปและจดทะเบียนแล้ว 13,768 ตัว  คิดเป็น 11.09%

สำหรับแผนการดำเนินงานระยะถัดไป จะเดินหน้าการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งข้อกำหนดพื้นที่ในการเลี้ยงสัตว์แต่ละประเภท รวมถึงเน้นย้ำเรื่องการจดทะเบียนก่อนกฎหมายบังคับใช้ โดยสัตว์เลี้ยงเดิม (เจ้าของเลี้ยงก่อนวันที่ 10 ม.ค. 69) จะไม่ถูกจำกัดจำนวนที่เลี้ยง คือ หากเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกยังสามารถเลี้ยงต่อได้จนกว่าสัตว์นั้นจะสิ้นอายุขัย

สำหรับสุนัขและแมวขอให้มาฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียน ส่วนสัตว์อื่น เช่น ม้า, นก, เป็ด ขอให้แจ้งจำนวนที่เลี้ยง ก็จะสามารถเลี้ยงต่อจนสิ้นอายุขัยได้เช่นกัน ทั้งนี้ ประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์เกินกว่าจำนวนที่กำหนด ให้แจ้งภายในวันที่ 9 เม.ย. 69 กรณีสัตว์เลี้ยงใหม่ (เลี้ยงหลัง 10 ม.ค. 69) จะจำกัดจำนวนการเลี้ยงตามข้อบัญญัติ โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสุนัขและแมวต้องมีการฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียน

 ชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ตนได้กำชับว่าเหลือระยะเวลาเพียง 1 เดือน ก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ ให้เร่งขยายบริการให้ทั่วถึง สื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบ เนื่องจากปัจจุบันยังมีประชาชนจำนวนมากไม่เข้าใจรายละเอียด พร้อมสั่งการให้ผู้บริหารเขตทุกพื้นที่ตรวจสอบสภาพรั้วโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กป้องกันสุนัขจรจัดเข้าพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของเด็กและบุคลากร

ส่วนเงื่อนไขการจดแจ้งสัตว์เก่า-สัตว์ใหม่ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เน้นย้ำว่า การสื่อสารของเจ้าหน้าที่เขตต้องตรงกัน คือ สัตว์เลี้ยงเก่า ไม่จำกัดจำนวน แต่ต้องฝังชิปและจดทะเบียน ส่วนสัตว์เลี้ยงใหม่จำกัดจำนวน ต้องฝังชิปและจดทะเบียน  โดยกฎหมายจะบังคับใช้ 10 ม.ค. 2569 แต่จะมีระยะเวลาผ่อนผันให้สามารถแจ้งสัตว์เลี้ยงเกินจำนวนภายใน 3 เดือน และเริ่มบังคับใช้จริงจังตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป

ในส่วนของลูกสัตว์ที่เกิดเกินจำนวนภายหลังข้อบัญญัติฯ มีผลบังคับใช้ (10 ม.ค. 2569) รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจะช่วยให้คำแนะนำ โดยหากยังเกินจำนวนหลังระยะเวลาผ่อนผัน (9 เม.ย. 2569) จะประสานช่องทางอุปการะหรือรับมาดูแลที่ศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ต่อไป

สำหรับสุนัขและแมวในวัดนั้น ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 นี้ ยังไม่ครอบคลุมโดยตรง เนื่องจากสุนัขและแมวในวัดไม่มีเจ้าของ โดยแนวทางเบื้องต้น หากสุนัขหรือแมวที่มีพระหรือฆราวาสแสดงตัวเป็นเจ้าของ ให้เจ้าของมาดำเนินการฉีดฝังชิปและจดทะเบียน หากเป็นสุนัขหรือแมวจรจัดที่มาอาศัยอยู่ในวัด ให้ดูแลตามแนวทางสัตว์จรจัด อาทิ ทำหมัน ฉีดวัคซีน แต่หากดุร้ายหรือเป็นปัญหาจนเกิดข้อร้องเรียน ให้ประสานกรุงเทพมหานครนำออกจากวัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รอหนาวอีกรอบ! มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมา ส่งผล 'เหนือ-กลาง-ตะวันออก-กทม.' อุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยจะมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม

เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.

กทม. ประกาศเตือน 'โรคพิษสุนัขบ้า' ระบาดเขตลาดกระบัง

กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ประกาศเตือน โปรดเฝ้าระวัง เนื่องจากพบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร