
เรียกได้ว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือครั้งใหม่ของนักแสดงหนุ่ม อัพ-ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง ที่ล่าสุดต้องมารับบทเป็นเด็กพิเศษในภาพยนตร์สยองขวัญอย่างเรื่อง “หุ่นพยนต์” ค่ายไฟว์สตาร์ กำกับภาพยนตร์โดย ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ
งานนี้เจ้าตัวถึงกับออกปากว่าทำการบ้านหนักมาก ทั้งการค้นคว้าข้อมูลและการไปศึกษากับน้องๆ เด็กพิเศษที่เจ้าตัวบอกว่าบท "เต๊ะ" ในวันแรกที่แคสกับวันนี้นั้น "ต่างกัน" อย่างมาก พร้อมสัญญาจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
บทบาทที่ได้รับ
“ผมรับบทเป็น เต๊ะ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษที่หลวงตาเก็บมาเลี้ยงครับ เป็นคนที่มีความจำดีมาก จำบทสวดได้ดี และก็ยังมีเรื่องของการปั้นเข้ามาเกี่ยวด้วย เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีความเชื่อและบูชาหุ่นปั้น เต๊ะก็จะได้เห็นหุ่นปั้นมากมาย และจะเห็นพี่นิก-คุณาธิป ปิ่นประดับ เป็นช่างปั้นประจำหมู่บ้าน เต๊ะก็จะชอบ และจะมีดินเหนียวติดตัวตลอดเวลา”
ทำการบ้านกับบทเด็กพิเศษหนักมาก
“ผมมีโอกาสได้ไป foundation ตรงปิ่นเกล้า เป็นมูลนิธิ ก็ได้คุยกับน้องๆเยอะมาก มีการค้นคว้าหาข้อมูลกันเยอะมากครับ ไปกันหมดเลยทั้งพี่ไมค์ผู้กำกับ พี่ๆ แอคติ้งโค้ช ก็ไปกันหมด แล้วก็ได้มีโอกาสคุยกับผู้อำนวยการของทางมูลนิธิด้วย คือทำการบ้านหนักมากจริงๆ ครับ เราได้ความรู้หลายอย่างกลับมาใช้กับตัวละครเต๊ะ มีการดูทั้งเรื่องเกี่ยวกับร่างกาย การแสดงออก สายตาต่างๆ แต่สำหรับตัวผมเอง สิ่งที่รู้สึกดีมากๆ คือเราได้เข้าใจเขามากขึ้น คือถ้าเราไม่ได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับเขาหรือกับผอ. ผมอาจจะไม่เข้าใจแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีค่ามากๆ ที่ได้ไป ดีใจครับ
ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์จากต่างประเทศหลายๆ เรื่องที่มีบทของเด็กพิเศษอย่าง The Good Doctor และได้ดูพี่ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร จากเรื่องพี่น้องลูกขนไก่ มาเหมือนกันครับ พี่เขาก็รับบทเป็นเด็กพิเศษ แล้วที่มูลนิธิก็มีน้องที่พี่ต่อเขาได้มาศึกษาพูดคุยด้วยเหมือนกัน หลังจากที่เราได้ไปเจอน้องๆ เรารู้สึกเลยว่าพวกเขาเป็นคนที่ใส่ใจห่วงใยผู้อื่นมากๆ เขาเปิดใจคุยกับเราตลอดเวลาเลย ความจริงแล้วเขาน่ารักมากๆ และอย่างหนึ่งที่ผมเรียนรู้ น้องๆ เขาอาจจะดูคล้ายกันในเรื่องเสียงหรือสายตาแต่จริงๆ แล้วทุกคนแตกต่าง ทุกคนมีสิ่งที่สนใจแตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้มันทำให้เรารู้ว่าเราจะมาออกแบบตัวละครนี้ยังไง และผมว่าการที่เราได้รับบทบาทนี้เราได้เข้าใจเขามากขึ้นผมว่ามันสำคัญมากๆ ใครที่สนใจอยากจะศึกษาความรู้เพิ่มเติมก็สามารถไปที่มูลนิธิได้เลย อันนี้ผมแนะนำเลย”
ความท้าทายครั้งใหม่
“บทบาทนี้มันท้าทายผมมากๆ อย่างที่บอกไปว่ามันมีทั้งเรื่องของอารมณ์ เรื่องการแสดงออกเกี่ยวกับร่างกาย ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นตัวละครเต๊ะได้มันผ่านอะไรมาเยอะมากจริงๆ ครับ ทั้งการค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ที่เยอะมากๆ ทั้งการไปเจอน้องๆ และการค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งผมเป็นสายวิชาการอยู่แล้ว เราจะชอบอะไรที่มันเป็น academic มากๆ
ตัวละครเต๊ะที่แคสวันแรกกับวันนี้มันต่างกันเยอะมากๆ คนละอย่างเลย มันยากขึ้นเยอะ ความคิดที่มันหลายชั้นมากๆ ถ้าเปรียบคะแนนตอนแรกที่ผมเข้าใจผมคิดว่าผมเข้าใจ 2 แต่การเรียนรู้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเราคิดว่าสิ่งนี้ให้เต็ม 10 เราเรียนรู้ไปแล้ว 6 7 8 พอเราเรียนรู้ไปถึง 8 เราจะรู้เลยว่ามันไม่ได้เต็ม 10 นะ มันเต็ม 100 เหมือนเรายังรู้ไม่หมด ฉะนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องของการแอคติ้ง แต่ทุกๆ อย่างคือความรู้ใหม่ เราทุกคนต้องอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง
ตอนแรกที่ทางหนังติดต่อมาเราก็คิดว่าจะไหวไหม แต่โอเคมันมีช่วงเวลาให้เราได้เวิร์คช็อป ให้เราได้ทำการศึกษา เลยคิดว่าก็ลองดูกันสักตั้ง ซึ่งถ้าเป็นภาพยนตร์จริงๆครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยครับ ตื่นเต้นมาก อย่างที่บอกว่าบทบาทมันท้าทายแล้วก็เป็นอะไรที่เราทุ่มเทมาก แล้ววันนี้เราได้เห็นผลงานนั้นแล้ว มันตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ จะได้เห็นคะแนนจากคนดูแล้วว่าเขาจะให้เราเท่าไหร่”
สยองขวัญทั้งเบื้องหน้า-เบื้องหลัง
“บรรยากาศการถ่ายทำคือสุดๆ เลยครับ หนึ่งคือมันเป็นสถานที่จริงอย่าง สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน วัดโกรกแก้ววงพระจันทร์ พระธาตุโบอ่องที่กาญจนบุรี อะไรแบบนี้ และบางที่มันเป็นสถานที่จริงที่มีประวัติ มีหุ่นเยอะมากและในหุ่นมีการใส่กระดูกของผู้ที่เสียชีวิตแล้วด้วย ตอนถ่ายก็กลัวสุดๆ ครับ”
อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ
“ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่ๆ และผู้ใหญ่หลายๆท่านที่มอบโอกาสให้เราตั้งแต่แรกที่เราก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงเลยครับ เพราะประเดิมบทแรกในแนนโน๊ะก็หนักหน่วงเลย จนมาถึงเรื่อง หุ่นพยนต์ มันทำให้เราได้พัฒนาตัวเองเรื่อยๆ และขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสเราพัฒนาตัวเองในบทบาทที่แตกต่างกันไป ดีใจมากๆครับ และบอกเลยว่าจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เป็นคติประจำใจเราเลยครับ
สำหรับภาพยนตร์ หุ่นพยนต์ ถ้าจะพูดว่าไม่ได้คาดหวังผลตอบรับก็คงจะไม่ได้ ก็คาดหวังครับ แต่สุดท้ายแล้วเราทำเต็มที่มากๆจริงๆ รวมถึงทีมงานทุกคนก็เต็มที่มากๆจริงๆแล้ว ผมว่าความเต็มที่ในการทำงานมันจะถูกถ่ายทอดผ่านผลงาน และนอกจากเส้นเรื่องที่น่าสนใจแล้ว ทุกตัวละครยังมี "ปม" ของตัวเอง รวมถึงตัวละคร เต๊ะ ด้วย ก็ต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนตร์ครับ”
โดยภาพยนตร์ หุ่นพยนต์ เป็นเรื่องราวของ ธาม ออกเดินทางตามหาพี่ชาย พระธี ที่บวชเป็นพระอยู่ที่วัดบนเกาะดอนสิงธรรม จนได้เจอกับ เจษ ช่างปั้นหุ่นพยนต์ที่ปลุกเสกหุ่นด้วยคาถาอาคม ธาม รับรู้ถึงข่าวลือจากพระและชาวบ้านว่าพระธีได้หนีหายสาบสูญหลังจากลงมือฆ่าเจ้าอาวาสวัด แต่ธามไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริงพอๆ กับไม่เชื่อลัทธิประหลาดที่ชาวบ้านนับถือหุ่นปั้นพ่อปู่สิงธรรม จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายในหมู่บ้านเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งหายสาบสูญ มีคนตาย และซ้ำร้ายที่สุดคือหุ่นปั้นพ่อปู่สิงธรรมที่ชาวบ้านนับถือกลับถูกทำลาย ชาวบ้านโกรธแค้นเตรียมตั้งพิธีกรรมสาปแช่งและตามล่ามือมืด
ถ้าเล่นกับความงมงาย ท้าทายกับศรัทธา ต้องกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็น! “หุ่นพยนต์” ติดตามได้ในโรงภาพยนตร์เร็วๆ นี้
มักเกิ้ล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เก่ง-น้ำปิง' สุดซึ้งส่งท้ายซีรีส์ คืน 'พ่อครูภรัณ-เขมจิรา' สู่นิยาย
เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์ให้แฟน ๆ ต้องลุ้นตามไปทุก EP พร้อมกับความหลอนที่ดูแล้วต้องระแวงหลังอยู่ตลอด สำหรับ ‘เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series’ ภายใต้การผลิตของ ‘บริษัท มันดีเวิร์ค จำกัด’ โดยได้รับคำชื่นชมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ EP แรก และขยายฐานแฟนซีรีส์ใหม่ ๆ ให้ได้มาติดตามจนทำให้มี Topic พูดคุยกันทุกสัปดาห์ ซึ่งเดินทางสู่ฉากสุดท้ายที่ถึงเวลาปิดจบเรื่องราว การเอาตัวรอดของ ‘เขมจิรา’ และการช่วยเหลือจาก ‘พ่อครูภรัณ’
'Love of Silom The Series' เปิดกล้องแล้ว 'อัพ-ภูมิ' พาสัมผัสความรักย่านสีลม
ได้เวลาไปพบกับแสงสียามค่ำคืนย่านสีลม! ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องรอกันนาน เพราะล่าสุดสองนักแสดงนำเคมีดีงาม “อัพ-ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง” และ “ภูมิ-ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์” นำทีมเปิดกล้องถ่ายทำคิวแรกของซีรีส์ “รักแห่งสีลม Love of Silom The Series” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รับรองผลงานคุณภาพโปรดักชันจัดเต็มโดย Insight Entertainment











