กรมอุทยานฯ แจงรั้วกันช้างออกแบบได้มาตรฐาน ยันโปร่งใส

กรมอุทยานฯ ยืนยัน3โครงการรั้วกันช้างออกแบบได้มาตรฐานและเทคนิควิศวกรรม แจงยังไม่แล้วเสร็จ ต้องติดตั้งระบบไฟฟ้าป้องกัน เตรียมส่งวิศวกรไปตรวจสอบสัปดาห์หน้า ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเผยทดลองหลายรูปแบบ ทั้งคูกันช้าง-เพนียดกั้น แต่ช้างป่าฉลาดออกมาหากินพื้นที่เกษตรชาวบ้านได้

21ก.พ.2565 – นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ แถลงข่าวชี้แจงกรณีรั้วป้องกันสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นายสมหวัง  กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหาสัตว์ป่าออกมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ได้แก่ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำการก่อสร้างรั้วกันช้างกึ่งถาวร จำนวน 13 กม พื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำการก่อสร้างรั้วกันช้างกึ่งถาวร จำนวน 10 กม. และพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง) ได้ทำการก่อสร้างรั้วกันช้างพร้อมระบบเตือนภัยพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 12 กม. รั้วกันช้างออกแบบโดยส่วนมาตรฐานและเทคนิคด้านวิศวกรรมของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งมีโครงสร้างตามหลักวิศวกรรม และจะต้องติดตั้งระบบไฟฟ้าป้องกันช้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกหลายรายการ

“ จากการดำเนินโครงการทั้ง 3 แห่งพบมีปัญหาอุปสรรคในเรื่องของสถานที่ก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ประกอบกับรัฐบาลได้มีมาตรการในการรับมือกับสถานการณ์และการประกาศพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน มีผลให้ขาดแคลนแรงงานในการก่อสร้าง และไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ ประกอบกับในพื้นที่ก่อสร้างบางแห่งมีน้ำท่วมขังเนื่องจากมีฝนตกบ่อยครั้งในระยะนี้  “ นายสมหวัง กล่าว

รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการดำเนินโครงการทั้ง 3 โครงการ ใน 3 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ดำเนินการเกือบแล้วเสร็จสมบูรณ์อยู่ระหว่างการก่อสร้าง  แต่ยังไม่ได้ติดระบบไฟฟ้าป้องกันช้าง และยังไม่ได้ส่งมอบงาน ทางคณะกรรมการตรวจการจ้างได้สั่งการให้ผู้รับจ้างทำการแก้ไข พร้อมทั้งเตรียมจะส่งวิศวกรไปตรวจสอบอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ยืนยันทั้ง 3 โครงการได้มาตรฐานและมีความโปร่งใส

สำหรับโครงการก่อสร้างรั้วกันช้างกึ่งถาวรเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ  13 กม. งบ 19.4 ล้านบาท ยังไม่มีการเบิกจ่าย  โครงการรั้วกันช้างกึ่งถาวร อุทยานแม่วงก์  10 กม. งบ 14.9 ล้าน เบิกจ่าย 2.3 ล้านบาท ที่เหลือคงค้างจ่าย ส่วนโครงการก่อสร้างรั้วกันช้างพร้อมระบบเตือนภัยพลังงานแสงอาทิตย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 12 กม. งบ 12 ล้านบาท  คงค้างเบิกจ่ายกว่า 90% ยังไม่มีรับมอบงาน   

ด้าน นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า จากประสบการณ์แก้ปัญหาช้างออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ตลอด  10 ปี  พบว่า ช้างเป็นสัตว์ฉลาด มีวิวัฒนาการและปรับตัวสูงมาก ที่ผ่านมาจัดทำรั้วกันช้างหลายรูปแบบเพื่อป้องกันช้างออกนอกพื้นที่เขตอนุรักษ์  ค่าใช้จ่ายสร้างรั้วต่อกิโลเมตรก็มีราคาสูง  แต่ระยะทางทำรั้วกันช้างมีมากกว่า 1,000 กิโลเมตร เฉลี่ยค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาทต่อกิโลเมตร บางโครงการ 7 ล้านบาทต่อ กม. ซึ่งรั้วกันช้างจะมีประสิทธิภาพต่อเมื่อก่อสร้างได้สมบูรณ์แบบ กรณีมีความเสียหายผู้รับจ้างก็ต้องรับผิดชอบ เพราะต้องมีการทำแผนเผชิญเหตุระหว่างก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม งบประมาณขึ้นกับสภาพพื้นที่ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาจากนิสัยของช้างแต่ละกลุ่มป่า

นายสมปอง กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก 5 จังหวัด ที่มีปัญหารุนแรง กรมฯ ป้องกันอย่างไร ช้างออกจากป่าได้หมด ทำคูกันช้าง ช้างเรียนรู้ใช้วิธีเดินทแยงขึ้นและช้างช่วยกันผลักดันให้เดินผ่านคูขึ้นมาได้ ส่วนเพนียดกันช้าง ซึ่งจัดทำเป็นเสาขนาดใหญ่ที่คาดว่าชัวร์ที่สุด ยังหักไปแล้วกว่า 4 ต้น อย่างไรก็ตาม ความเสียหายอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ซึ่งเพนียดราคาต่อกิโลเมตรแพงมาก แต่ช้างก็ออกมาได้หมด

นายเนรมิต สงแสง หน.อุทยานแห่งชาติ แม่วงก์ กล่าวว่า โครงการกำหนดแล้วเสร็จ 15 มี.ค. ปัจจุบันมีความคืบหน้า 80% เร่งผู้รับจ้างให้ดำเนินการ เนื่องจากปัญหาโควิด แรงงาน และมรสุม ไม่มีความกังวล มั่นใจแล้วเสร็จตามแผนแน่นอน

 นายตรศักดิ์ นิภานันท์ หน.สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง  กล่าวว่า งานก่อสร้างทางผู้รับจ้างกำหนดเสร็จสิ้นวันที่  5 มี.ค. แต่ช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก เป็นอุปสรรคก่อสร้าง  ทางผู้รับจ้างเร่งดำเนินการ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รองนายกฯ​ สุชาติ ” ชูโครงการอาหารเพื่อสัตว์ป่า ระหว่างกรมอุทยานฯ กับ ซีพี แอ็กซ์ตร้าฯ เป็นหมุดหมายสำคัญสู่ Zero Food Waste เดินหน้าลดปริมาณขยะอาหารต่อเนื่อง

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางอาหารเพื่อสัตว์ป่าระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) และพิธีรับมอบอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) โดยมีนายวีระ ขุนไชยรักษ์

เวียนเทียนด้วยต้นไม้ วันวิสาขูชา ลดฝุ่น PM2.5

วันวิสาขบูชาถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล ชาวพุทธทั่วโลกร่วมกันทำบุญ เจริญภาวนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และประธานมูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชานี้ มูลนิธิปลูกต้นไม้ฯ

'ผึ้งหลวงหิมาลัย'ดอยผ้าห่มปก ดัชนีความหลากหลายชีวภาพ

การค้นพบผึ้งหลวงหิมาลัยครั้งแรกในประเทศไทยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่  สร้างความฮือฮาให้กับวงการชีววิทยาของไทยและสากล  นายทรงเกียรติ ตาตะยานนท์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อช.)

เปิดยุทธศาสตร์'กุยบุรี' ลดขัดแย้งคน-ช้าง

เนื่องในวันช้างไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี มีการรณรงค์สื่อสารให้คนไทยตระหนักถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของช้างไทยจากปัญหาผืนป่าที่ถูกทำลายและลดลง ทั้งด้วยปัจจัยทางธรรมชาติและกิจกรรมจากน้ำมือมนุษย์รบกวนถิ่นที่อยู่อาศัยของช้างสัตว์ประจำชาติ

ยุติค้าสัตว์ป่า ภัยเงียบทำลายระบบนิเวศ

23 ธ.ค.2566 - พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) จ.ราชบุรี ที่