'ก้าวไกล' ส่อชวดเก้าอี้ประธานสภาฯ 'พิธา' มีทางออก-ต้องให้เกียรติ 7 พรรค

26 พ.ค.2566 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า คิดว่าทั้ง 8 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลต้องร่วมมือกัน และมีการพูดคุยกัน โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาใน 2-3 วันนี้ ทั้งตนและประชาชนต่างก็ได้ยินมาแล้วว่ามีความต้องการอย่างไร ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกันในทีมเจรจาที่เราได้ตั้งเอาไว้ และปรับเรื่องของนโยบายในช่วงเวลาอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ที่จะทำนโยบายร่วมกันและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับไปพูดคุยกันในทีมเจรจา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ว่าขณะนี้มีทางออกในเรื่องของประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าคิดว่าทุกท่านก็มีทางออกไม่ใช่แค่ตนคนเดียว ซึ่งต้องให้เกียรติพรรคร่วมอีก 7 พรรคที่เหลือ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะพูดคุยกันอย่างไร แสดงเหตุและผลกันอย่างไร ทำให้ประชาชนไม่เสียกำลังใจและเสียความหวัง และไม่เสียสมาธิในเรื่องใหญ่ๆของประเทศ

เมื่อถามว่าเชื่อใจว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เชื่อใจ เวลาทำงานการเมืองก็ต้องเริ่มต้นจากการเชื่อใจซึ่งกันและกัน

ถามว่ารอยร้าวของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะสมานได้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ได้แน่นอน เป็นเรื่องปกติของการทำงาน ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันแต่ถ้าเรานำประชาชนมาเป็นที่ตั้งและกลับมาพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผล ทุกอย่างมีทางออก

เมื่อถามว่ามีความกังวล หรือไม่ กรณีที่แฟนคลับพรรคเพื่อไทยเตรียมจัดชุมนุมในวันอาทิตย์นี้ (28 พ.ค.) ให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นายพิธา ตอบว่า ไม่ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย แต่กระบวนการสำคัญคือการพูดคุยกันการปรับจูนเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้เหมือนอย่างที่ประชาชนได้ไว้วางใจเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่