'ก้าวไกล' เมินลดเพดาน 112 ลั่นความเห็นไม่ตรงกันก็ไปหาข้อยุติในสภาฯ เป็นทางออกดีที่สุด

"ชัยธวัช" มั่นใจประชุมประธานสภาฯ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" คุยหาข้อสรุปที่ดีได้ เชื่อ ส.ว.จะคงมาตรฐานเดิมแบบปี 62 ในการโหวตนายกฯ ยัน "พิธา" พร้อมแจง หาก กกต.เรียก

26 มิ.ย.2566 - ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล ว่า ทางพรรคก้าวไกลจะพูดคุยกับพรรค พท. ในวันที่ 28 มิ.ย. หลังจากวันที่ 27 มิ.ย. พรรค พท. จะมีการประชุมส.ส.ในพรรค คาดว่าในวันที่ 28 นี้จะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะนำไปเสนอในที่ประชุม 8 พรรคร่วม ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ส่วนแนวทางที่จะเสนอให้พรรคก้าวไกลเป็นประธานสภา เรายังเสนอเช่นนั้นอยู่ หลักการทั่วไปแล้ว ประธานสภาควรจะเป็นของพรรคอันดับที่ 1 ซึ่งคงต้องให้เวลาพรรค พท. ได้พูดคุยกันและหาข้อสรุป ซึ่งเป็นกระบวนการภายในพรรค เราไม่มีเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้พรรค พท. ยกเก้าอี้ประธานสภาให้กับพรรคก้าวไกล ตนคิดว่าเป็นหลักการทั่วในระบบรัฐสภา พวกเราควรจะช่วยกันฟื้นฟูระบบประชาธิปไตย ให้ระบบการเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยปกติ

เมื่อถามว่า ทางสมาชิกพท. บางส่วนกล่าวว่า เก้าอี้ประธานสภาต้องเป็นของพรรค พท. เท่านั้น จะมีผลต่อการเจรจาหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องให้ผ่านการประชุมภายในของพรรค พท. ก่อน แต่ตนคิดว่าน่าจะได้ข้อสรุปที่ดี ที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันประสบความสำเร็จ เรายังเชื่อว่าพรรค พท. ก้าวไกลยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง ที่อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมมาบริหารประเทศ แทนรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเจรจากับส.ว. นายชัยธวัชกล่าวว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะรอดูขั้นแรก คือการเลือกประธานสภา เราเชื่อว่าส.ว.ยังมีมาตรฐานเหมือนเดิมอย่างในปี 2562 ว่า ถ้าพรรคการเมืองใดสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาได้ ก็สมควรที่จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการเลือกประธานสภาก็จะสะท้อน การจับมือร่วมกันของ 8 พันธมิตรที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำ มีความเหนียวแน่นเหมือนเดิม หากผ่านเรื่องนี้แล้วก็จะทำให้ส.ว.จำนวนมากมีความเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลยังเป็นแกนนำในการรวมรวบเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรได้

ส่วนการที่ส.ว.ขอให้ก้าวไกลลดเพดานมาตรา 112 ตนคิดว่าทางด้านนโยบายและความเหมาะสมของแคนดิเดตนายกฯ แต่ละพรรค ทุกคนที่เป็นคนไทยได้แสดงออก ตัดสินใจไปแล้วพร้อมกันผ่านการเลือกตั้ง ในฐานะประชาชนที่มี 1 สิทธิ์ 1 เสียง เพราะฉะนั้นขั้นตอนการเลือกนายกฯ ในสภา เรายังหวังว่าทุกฝ่ายที่ปรารถนาดีกับบ้านเมืองจะยึดมั่นว่า ถ้าพรรคการเมืองไหนรวมรวบเสียงส่วนใหญ่ได้ก็ควรเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ควรจะเป็นในระบบรัฐสภา

ตนหวังว่าส.ว.จำนวนมากจะยึดตามหลักการนี้เช่นกัน ส่วนข้อกังวลในอนาคต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมตรี รวมถึงพรรคก้าวไกล จะไปสร้างปัญหาอะไรหรือไม่ในอนาคต เรื่องนี้ตนคิดว่า ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ ใครเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรที่ฝืนความเห็นชอบของสังคมส่วนใหญ่ได้ หากไปสร้างความขัดแย้งในสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็อยู่ไม่ได้ มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารเองหรือในสภาผู้แทนราษฎรก็มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลอยู่แล้ว ร่างกฎหมายต่างๆ แม้จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่กระบวนการหาข้อยุติในสภาผู้แทนราษฎร เป็นทางออกที่ดีที่สุด ให้กระบวนการทางประชาธิปไตยหาข้อยุติ

ถามว่า ทางพรรคก้าวไกลมองฉากทัศน์ไว้กี่แบบในวันโหวตนากยกฯ นายชัยธวัชกล่าวว่า หวังว่าจะมีเพียงฉากทัศน์เดียว เพราะหากมีฉากทัศน์อื่นก็อาจจะทำให้เกิดความีขัดแย้งในบ้านเมืองได้ ทั้งที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมา ส่วนฉากทัศน์ที่วางไว้จะจบภายในครั้งเดียวหรือไม่ ตนมองว่าอันที่จริงควรเป็นเช่นนั้น หลายฝ่ายเองก็กังวลว่ากระบวนการดำเนินไปแบบไม่ปกติ ไม่มีความชัดเจนทางการเมือง ก่อให้เกิดความกังวลในเสถียรภาพทางการเมือง ก็จะกระทบกับหลายๆ ส่วน ประชาชนที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ปัญหา ไม่ว่าจเป็นภาคธุรกิจ ที่วันนี้เป็นเรื่องแปลกที่มีการเลือกตั้งชัดเจนแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ตอบรับในทางลบเพราะมีความกังวลใจในเรื่องความชัดเจนว่า ผลในการจัดตั้งรัฐบาลจะสอดคล้องเป็นไปตามเสียงของประชาชนหรือไม่ ดังนั้นดีที่สุดกับทุกฝ่ายคือดำเนินไปตามผลของการเลือกตั้ง

ซักว่า หากเกมพลิกให้พรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกฯ พรรคก้าวไกลสามารถรวมกับพรรค พท. ได้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าพรรค พท. มีความมุ่งมั่น จริงใจ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล เราได้ผ่านการต่อสู้เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยมาแล้ว เราเคยไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เราก็ไม่เห็นด้วยในปี 2562 ที่พรรคที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง แต่ใช้เงื่อนไขพิเศษไปรวบรวมเสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน

“ดังนั้นผมยังเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย ยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกับก้าวไกล” นายชัยธวัชกล่าว

เมื่อถามว่าตามที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะเสนอให้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ จะกระทบต่อเสียงส.ว.หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ตนเข้าใจว่าเป็นการพูดถึงประวัติศาสตร์ ว่าวันที่ 24 มิถุนายนเป็นวันชาติ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มีหลายฝ่ายเคยเสนอให้วันสำคัญทางการเมืองในทางประชาธิปไตยเป็นวันหยุด เพื่อให้เห็นความสำคัญและคุณค่าของประชาธิปไตย เรื่องนี้มีความเห็นที่หลากหลาย ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาถกเถียงกัน

ถามอีกว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลได้ฟ้องร้องนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ฟ้องในประเด็นใด นายชัยธวัชกล่าวว่า ตลอดเวลาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกล เราจะพยายามที่จะไม่ฟ้องใครจนกว่าจะถึงที่สุดจริงๆ เพราะพรรคเรามีนโยบายส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามบางกรณีก็เกินไปจริงๆ และมีกระบวนการทำอย่างต่อเนื่อง ก็เข้าใจว่าเป็นการฟ้องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ก็คงต้องรอคำวินิจฉัยของศาล

เมื่อถามว่า กรณีนายเรืองไกร ฟ้องร้องเรื่องที่ดินของนายพิธา จะมีผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนยังไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร แต่การยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องอื่นๆ หากจะมีประเด็นในทางกฎหมาย เช่น การไปร้องศาล ไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เป็นไปตามกระบวนการปกติ ส่วนเรื่องภายในกกต. จนมาถึงวันนี้เราก็ยังไม่ได้รับหนังสือเรียกให้ไปชี้แจงแต่อย่างใด แต่ก็พร้อมหากมีหนังสือเรียกให้ไปชี้แจง ส่วนมีกระแสข่าวว่ากกต. จะเรียกให้ไปชี้แจงปมหุ้นไอทีวีก็รออยู่ พร้อมชี้แจง ตนคิดว่าข้อเท็จจริงได้มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนก็น่าจะชัดเจนแล้ว ว่าสถานะไอทีวีเป็นอย่างไร อันที่จริงนอกจากจะเรียกนายพิธาให้ไปชี้แจงแล้ว ก็อยากให้เรียกทางไอทีวีเข้าไปเช่นกัน ว่ากระบวนการที่ผ่านมาในเรื่องการประชุมที่เกิดข้อสงสัย ว่ารายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือข้อพิรุธต่างๆ ในเรื่องงบการเงินเป็นอย่างไร และไอทีวียังยืนยันหรือไม่ว่ายังเป็นบริษัทสื่อ ก็จะเป็นความสมบูรณ์ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่