
31 ก.ค.65 – พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวถึงตามที่มีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 47) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 65 เป็นต้นไป ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีนโยบายผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อผ่อนปรนให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติมากขึ้น พร้อมได้กำชับทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแล พร้อมกำชับการปฏิบัติของทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้อง โดยให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ สร้างการรับรู้ มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสตามแนวทางของ ศบค. และตามประกาศ คำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ของแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมถึงการออกตรวจสอบ กวดขัน พร้อมให้คำแนะนำ สถานประกอบการ ร้านค้า ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 47) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ 1.กำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์ที่ทุกเขตพื้นที่จังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง 2.การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค ของมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น และข้อปฎิบัติสำหรับพื้นที่สถาการณ์ระดับต่างๆ รวมทั้งมาตรการเตรียมความพร้อมตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 37 ) (ฉบับที่ 44) (ฉบับที่45) และ (ฉบับที่46) ยังคงมีผลใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนด ฉบับที่(47)
3.กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค กิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่อาจเกิดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัสและสามารถแพร่โรคได้ ยังคงจำเป็นต้องห้ามดำเนินการและห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เว้นแต่การจัดกิจกรรมนั้นได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายที่จะพิจารณาในแต่ละกรณี รวมถึงการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเป็นเสรีภาพของประชาชนที่ย่อมกระทำได้ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยให้นำหลักเกณฑ์การจัดและการแจ้งการชุมนุม รวมทั้งหน้าที่ของผู้จัดและผู้ชุมนุมตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะมาใช้โดยอนุโลม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ ระงับยับยั้ง หรือยุติการชุมนุมการทำกิจกรรม หรือการมั่วสุม ที่จัดขึ้นโดยมีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดฯ
4.การเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางบกผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราว จุดผ่อนปรนประเภทต่างๆ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายเปิดประเทศควบคู่กับการดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มแข็งและสมดุล 5.มาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการระบาดระลอกใหม่ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เตรียมความพร้อมโดยบูรณาการและประสานการปฏิบัติงานเพื่อจัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์ วัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร รวมถึงระบบการช่วยเหลือและรักษาผู้ติดเชื้อ สถานที่และเตียงรองรับผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยวิกฤตในรูปแบบต่าง
6.การเตรียมความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรคโควิด – 19 จากโรคติดต่ออันตรายไปสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด – 19จากโรคติดต่ออันตรายไปสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อให้บรรลุเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถรับมือ ปรับตัว และดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัย ภายใต้หลักการและแนวคิดที่ว่า “ประชาชนปลอดภัย เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง”
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกหน่วยในพื้นที่เกี่ยวข้องประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่ ออกตรวจสอบสถานประกอบการ แหล่งมั่วสุม หรือสถานที่มีประชาชนแออัดจำนวนมาก หากพบการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ กำชับตำรวจทุกนายห้ามมีส่วนข้องเกี่ยวกับการกระทำความผิดทุกรูปแบบไม่ว่าจะโดยตรง หรือทางอ้อม หากตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย หรือหย่อนยานจะพิจารณาดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับต่อไปไม่มีข้อยกเว้น
พร้อมขอฝากประชาชสัมพันธ์ให้ประชาชน สถานประกอบการ ปฎิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนด ตามที่ ศบค. คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่ได้ประกาศออกมา และติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มช่วงปีใหม่ ดูแลป้องกันอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุจราจร ยกระดับฝากบ้าน 4.0
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2569
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นฟันวินัย-อาญา ผบ.ตร. ละเว้น ประวิงเวลา ปมตำรวจรับส่วยเว็บพนัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 177/2568 ซึ
ผบ.ตร.สั่งดูแลเต็มที่ตชด. 6 นาย บาดเจ็บจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
พล.ต.ท.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะตามแนวชา
'อนุทิน' หัวโต๊ะถกชายแดน 'ผบ.ทบ.' เครียด 'บิ๊กต่าย' จัด คฝ.-ตชด. ดูแลพื้นที่
'ผบ.ทบ.' สีหน้าเครียด ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้าน 'บิ๊กต่าย' พร้อมเป็นหน่วยหนุนกองหลัง จัด คฝ.-ตชด. ดูแลพื้นที่ หลัง นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
'ผบ.ตร.' สั่งเร่งช่วยอพยพปชช. พร้อมหนุนทหารตรึงชายแดน
ผบ.ตร.สั่งด่วน ตำรวจเร่งช่วยอพยพประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา สู่พื้นที่ปลอดภัย ตชด. – ภ.จว. เตรียมพร้อม 100% ร่วมกองทัพตรึงชายแดน
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่

