วันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ร่าง มีหลักฐานบ่งชี้เป็นทหารเรือ ทำให้ขณะนี้มีร่างที่รอผลพิสูจนเอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 4 นาย คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย ขณะที่ร่างกำลังพลกองทัพเรือ รายที่ 11 - 20 ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ถึงสัตหีบ กองทัพเรือจัดพิธีรับร่างอย่างสมเกียรติ ก่อนเคลื่อนศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเย็นนี้
28 ธ.ค.2565 - เวลา 15.00 น. ที่สนามบินอู่ตะเภา พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมกำลังพลกองทัพเรือ จากหน่วยต่างๆ ได้เดินทางไปร่วมรับร่างกำลังพลกองทัพเรือ 10 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ได้เคลื่อนร่าง โดยเครื่องบินลำเลียงแบบ C - 130 ของกองทัพอากาศ จาก กองบิน 5 อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังสนามบินอู่ตะเภา ประกอบด้วย
1.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 2.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 3.จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 4.จ่าโท สหรัฐ อีสา 5.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 6.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 7.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 8.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง 9.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี และ 10. พลทหาร จำลอง แสนแก
โดยมีครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตร่วมในพิธี
จากนั้นได้มีการเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีทหารกองเกียรติยศรับรถขบวนเคลื่อนย้ายร่าง ตลอดเส้นทางผ่านอย่างสมเกียรติ ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ และในเวลา 17.00 น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพวงมาลาพระราชทาน วางหน้าหีบศพกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 10 นาย
ด้านพลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้สามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 นาย โดยทั้ง 3 ร่างมีหลักฐานบ่งชี้เป็นทหารเรือ ทำให้ในขณะนี้มีร่างที่รอผลพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัว บุคคล 4 นาย คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 28 ธันวาคม 2565) เวลา 17.00 น.
ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 4 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 5 นาย
สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 20 ประกอบด้วย
1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก
2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
3.พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
4.พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล
6.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
7.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
9.จ่าโท สหรัฐ อีสา
10.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ
11.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์
12.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
13. จ่าตรี ศราวุธ นาดี
14.จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
15. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ
16. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
17. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง
18. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
19.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
20. พลทหาร จำลอง แสนแก
สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.
นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง
ทร. ส่ง 'เรือหลวงอ่างทอง' ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือชาวใต้ ถึงหาดใหญ่ 1 ธ.ค.
กองทัพเรือ ส่งเรือยกพลขึ้นบก “เรือหลวงอ่างทอง” ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภคหลายตัน เร่งช่วยเหลือชีวิตชาวใต้ประสบอุทกภัย
กองทัพเรือโต้สนั่น! ยัน 'หน่วยซีลไม่ถูกจับตัวประกัน' เรียกค่าไถ่เขต 8 เป็นเฟคนิวส์
กองทัพเรือชี้กระแสข่าวจับซีลเรียกค่าไถ่ 40,000 บาทเป็นข้อมูลเท็จ เผยกำลังพลลงเขต 8 เพื่อช่วยผู้ประสบภัย ไม่ได้พกอาวุธติดตัว พร้อมย้ำภาพทหารถือปืนที่ถูกแชร์ในโซเชียลเป็นภาพ AI
หน่วยซีลเข้าเขต 8 หาดใหญ่ ขนย้ายผู้ป่วยฟอกไต 18 ราย เปิดฐานทัพเป็นศูนย์พักพิง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ให้ข้อมูลว่าจากการส่งชุด ปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2568) ได้รับรายงานว่าชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยซีล กองทัพเรือ ชุดที่ 1
ซีล-รีคอน-อีโอดี กองทัพเรือ ผนึกกำลังช่วยผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม.แล้ว
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปพ.) ของกองทัพเรือ รวม 15 ชุด จากหน่วยซีล หน่วยลาดตระเวน นาวิกโยธิน และหน่วย EOD ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน


