โค้งสุดท้าย! 'ช้อปดีมีคืน' รีบใช้จ่ายภายใน 15 ก.พ.

6 ก.พ. 2566 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลดำเนินโครงการช้อปดีมีคืน โดยมีระยะเวลาให้ประชาชนที่จะใช้สิทธินำยอดการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการไปลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับปีภาษี 2566 สามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -15 ก.พ. 2566 ซึ่งขณะนี้โครงการดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายเหลือเวลาอีก 10 วันสุดท้าย

จึงขอย้ำเตือนผู้มีเงินได้ ที่ประสงค์จะร่วมโครงการหากมีการใช้จ่ายในช่วงนี้จนถึงวันที่ 15 ก.พ. อย่าลืมขอใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษ หรือ ใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) จากผู้ขาย จากนั้นก็เก็บใบกำกับภาษีจากการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดำเนินโครงการนี้ไปประกอบการหักลดหย่อนภาษีในช่วงยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ประจำปี 2566 ในช่วงเดือนม.ค. – มี.ค. 2567

สำหรับโครงการช้อปดีมีคืนเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ประชาชนผู้มีเงินได้นำยอดการใช้จ่ายการซื้อสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 ไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่ายอดการใช้จ่าย 30,000 บาทแรกนั้นสามารถใช้ได้ทั้งใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบกระดาษและใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt แต่อีก 10,000 บาทจะต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการที่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เท่านั้น

โดยสินค้าและบริการที่ผู้มีเงินได้เลือกซื้อและใช้บริการนั้นมีหลากหลาย ซึ่งรวมถึงการเติบน้ำมันรถยนต์และจักรยานยนต์ แต่ต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพกรเท่านั้น ขณะเดียวกันก็มีสินค้าและบริการบางประเภทที่ไม่สามารถนำมาร่วมโครงการได้ อาทิ ค่าสุรา, ยาสูบ, ค่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ, ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร,ค่าบริการจัดนำเที่ยว,ค่าที่พักในโรงแรม, ค่าสาธารณูปโภค ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า ภายใต้โครงการช้อปดีมีคืนรัฐบาลคาดว่าจะเกิดการใช้จ่ายและมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 56,000 ล้านบาท สนับสนุนให้จีดีพีเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายร้อยละ 0.16 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่มเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!

รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน

ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา!

รัฐบาลร่วมแสดงความจงรักภักดี และถวายพระราชกุศล เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ โดยไม่ถือเป็นวันลา

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด