กรุงไทย-สปสช.แจกถุงยางอนามัย-ยาคุมกำเนิด ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

20 ก.พ. 2566 – นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า สปสช. บรรจุ “บริการถุงยางอนามัยและยาเม็ดคุมกำเนิด” เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี หนองใน หนองในเทียม และเอดส์ เป็นต้น

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า และเพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) รับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้ง่ายขึ้น นอกจากไปขอรับที่หน่วยบริการแล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสามารถขอรับผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ โดยเป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยที่ให้บริการสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ บนแอปฯ เป๋าตัง ไม่เพียงแต่ดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองให้เข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด แต่ยังรวมถึงบริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ ด้วย เช่น การใส่ห่วงอนามัย ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นต้น  

“ที่ผ่านมา สปสช.มีความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขอรับชุดตรวจ ATK ผ่านแอปฯ เป๋าตัง การจองคิวเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในช่วงของการรณรงค์คือ พฤษภาคม-สิงหาคมของทุกปี รวมถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในด้านต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของ สปสช.ได้ง่ายขึ้น” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับชีวิตคนไทยในทุกมิติ ให้ความสำคัญกับระบบสาธารณสุขของประเทศ ตามแผนงานด้านการรักษาพยาบาลและสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 Ecosystems หลักของธนาคาร โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) สามารถจองสิทธิรับถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง โดยเลือกทำรายการ “สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค” บนกระเป๋าสุขภาพ ระบบจะเปิดให้เลือกถุงยางอนามัยหรือยาคุมกำเนิดและเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลระบบบัตรทองที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 400 หน่วยบริการทั่วประเทศเพื่อติดต่อรับสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดอย่างทั่วถึงและเพียงพอทุกพื้นที่ ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรในกลุ่มวัยรุ่น

ธนาคารสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพของ สปสช.มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform เชื่อมต่อระบบสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข และเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพื้นฐาน ตามระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของภาครัฐ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยคุ้นเคยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิสามารถใช้บริการเช็กสิทธิ นัดหมาย พร้อมยืนยันตัวตนผู้มารับบริการด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผ่านมาธนาคารร่วมกับ สปสช. เปิดบริการลงทะเบียนคัดกรองเพื่อรับชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชนจำนวน 6.9 ล้านชุด ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเปิดบริการการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพื่อดูแลประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รวมถึงลงทะเบียนขอรับสิทธิบริการด้านคุมกำเนิด ผ่านกระเป๋าสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐที่มอบให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุอย่างทั่วถึง เพื่อยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”  

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทย ยังมีแผนต่อยอดพัฒนาความร่วมมือกับ สปสช.ให้บริการการดูแลสุขภาพประชาชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และขยายการบริการสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่านกระเป๋าสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถกดรับสิทธิและเลือกหน่วยบริการหรือเช็กรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ กระเป๋าสุขภาพ ในแอปฯ เป๋าตัง หรือเช็กรายชื่อสถานพยาบาลได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่ง 'สปสช.-สปส.' ร่วมยกระดับหลักประกันสุขภาพ

นายกฯ สั่งการเดินหน้าบูรณาการการทำงาน สปสช.- สปส. ร่วมมือการทำงาน เริ่ม 1 เม.ย.2567 ยกระดับหลักประกันสุขภาพตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามกลุ่มช่วงอายุ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สปสช.ยังค้างจ่ายเงินโรงเรียนแพทย์ร่วม 1,000 ล้านบาท แจงยิบติดค้างรพ.ละเท่าไหร่

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กล่าวถึงกรณี รองเลขาฯ สปสช.ชี้แจงค้างจ่ายเงินโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ ที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ รวม 369 ล้านบาท ว่าเกิดจากการเรียกเก็บค่าชดเชย ที่ติดรหัส C และติดรหัส DENY นั้น ไม่ครบถ้วน