
23 ก.พ.2566- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่ ทาง กมธ.ได้เชิญนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 และ นพ.สุภัทร เข้ามาชี้แจงต่อที่ประชุม บทสรุป ทางคณะกรรมาธิการมีมติว่าการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร เป็นไปตามกฎหมายตามที่เป็นข่าวนั้น จากนั้น ทางปลัดกระทรวงฯ ได้รายงานการประชุมแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งนายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มาสัมภาษณ์ว่า ท่านปลัดโอภาส ได้ชี้แจงทุกประเด็น ให้คณะกรรมาธิการ ได้รับทราบ จนสิ้นสงสัยแล้ว สอดคล้องกับการแถลงข่าวของท่านประธานคณะกรรมาธิการที่รัฐสภาเมื่อบ่ายวานนี้
ที่สุดแล้ว ต้องขอชื่นชมท่านปลัดโอภาสและท่านผู้ตรวจราชการสวัสดิ์ ที่ได้ไปร่วมชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆจากผู้ร้องเรียนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีความอดทนต่อคำพูดเชิงดูหมิ่นของกลุ่มผู้ร้องเรียนได้อย่างสงบนิ่ง ซึ่งเป็นคำชื่นชมจากประธาน กมธ.และมีความเยือกเย็นจนเป็นที่น่าเกรงขามมาก ตั้งแต่เกิดมาและประสบความสำเร็จในชีวิต ยังไม่เคยเห็นแม้แต่ครั้งเดียวที่ความชั่วเอาชนะความดีได้และตนเชื่อเสมอว่าจะไม่มีวันเป็นเช่นนั้น
สี่ปีในกระทรวงสาธารณสุขภายใต้ความรับผิดชอบ เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากมายและได้มีโอกาสทำงานกับผู้ที่ถือได้ว่าเป็นมันสมองของประเทศ ตนถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นบุญวาสนาและเกียรติยศอันสูงส่งและไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะตักตวงประโยชน์ใดๆจากกระทรวงนี้แม้แต่น้อย ด้วยความสุจริต จึงมีแต่ความสบายใจที่ได้ทำงานที่นี่ ถึงแม้จะมีมรสุมมากร้ำกรายก็ไม่สามารถทำลายความน่าเชื่อถือต่อผลงานอันเด่นชัดของกระทรวงสาธารณสุขได้
“ผมไม่ต้องให้กำลังใจท่านปลัดโอภาส คุณหมอสวัสดิ์ หมอรุ่งเรือง(กิจผาติ) หมอทวีสิน(วิษณุโยธิน) หมอพงษ์เกษม(ไข่มุกด์) หมออัมพร(เบญจพลพิทักษ์) ที่โดนลบหลู่ดูหมิ่น ด้อยค่า กรรโชกจากกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์แต่สามารถยืนหยัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกจากตัวและทำให้ย้อนกลับไปเข้าตัวคนไม่ดีเหล่านั้นได้และยิ่งทำให้ผู้บริหารทุกท่านที่ผมได้เอ่ยนามมาข้างต้นได้แผดพลังแห่งคุณงามความดีให้เป็นที่ชื่นใจของหมู่คนที่มีศีลเสมอกันอย่างเป็นที่ประจักษ์ สมดังเนื้อหาจากโคลงสี่สุภาพที่สมเด็จพระปิยะมหาราชได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า สุจริตคือเกราะบังศาสตร์พ้อง ปัญญาประดุจดัง อาวุธ ทุกท่านล้วนเป็นผู้นำองค์กรที่เข้มแข็งอย่างเป็นที่ประจักษ์ชัดและมีความสง่างามเป็นอย่างยิ่ง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
จับตาหยุดยิง72ชม. หากเขมรจริงใจเดินหน้าปฏิญญา/‘บิ๊กเล็ก’จ่อลงนาม27ธ.ค.
"สมช." ไฟเขียวข้อเสนอวงถกฝ่ายเลขาฯ GBC ไทย-กัมพูชา หยุดยิง 72 ชม.
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง
บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
นายกฯ ลั่นทำลายรูปปั้นสัญลักษณ์เขมร เทียบไม่ได้กับทหารไทยขาขาด มองอินเดียตำหนิ ให้เป็นเรื่องแค่ 2 ประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี

