
อาคารแสดงประเทศไทย โดย ดีอีเอส-ดีป้า ขนทัพนักแสดงกว่า 50 ชีวิต จัดงาน “วันชาติไทย” (Thailand National Day) ยิ่งใหญ่ในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ โชว์ศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศ และเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยให้ทั่วโลกได้สัมผัส หลังขึ้นแท่นไฮไลท์ 1 ใน 3 อาคารแสดงยอดนิยมจาก 192 ประเทศทั่วโลก มั่นใจความสำเร็จจากงานจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนหลังวิกฤตโควิด-19
6 ธ.ค. 2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า แม้ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะส่งผลให้เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ต้องเลื่อนการจัดงานจากกำหนดเดิมมาถึง 1 ปีเต็ม แต่กระแสความนิยมที่อาคารแสดงประเทศไทยได้รับอย่างต่อเนื่องภายหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ กระทรวงดิจิทัลฯ โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า มั่นใจว่า ตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน (วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565) อาคารแสดงประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในอาคารแสดงที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด โดยแนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the Future) จะเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศสู่สายตานักลงทุนทั่วโลก ผ่านความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ขณะที่เอกลักษณ์และความเป็นไทยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมทั่วทุกมุมโลก ยืนยันได้จากตัวเลขผู้เข้าชมงานกว่า 5 แสนคนในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา
วันชาติไทย (Thai National Day) จึงถือเป็นโอกาสพิเศษที่ทางอาคารแสดงประเทศไทยจะได้หยิบยก อัตลักษณ์และเสน่ห์ของวัฒนธรรม รวมถึงประเพณีอันล้ำค่าของไทยมาแสดงสู่สายตาประเทศสมาชิกกว่า 190 ประเทศทั่วโลกอีกครั้งที่ Al Wasl Plaza โดมหลักใจกลางงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ โดยมี นายชัยวุฒิ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้เกียรติเข้าร่วมในช่วงพิธีการ รวมถึง นายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และคณะผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมงานกันโดยพร้อมเพรียง

สำหรับรายละเอียดกิจกรรมในงานวันชาติไทยจะเริ่มด้วยขบวนพาเหรด “SMILE PARADE” จากด้านหน้าอาคารแสดงประเทศไทยมุ่งหน้าไปยัง Al Wasl Plaza เพื่อเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งประเทศไทยพร้อมถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทย อลังการด้วยการแสดงพิเศษ ภายใต้แนวคิด “Miracle of Smile มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม” โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่มามอบความสุขและรอยยิ้มแก่ผู้ร่วมงานด้วยสื่อสากลอย่าง เสียงเพลง ผ่านการแสดงทั้ง 5 องก์ ประกอบด้วย องก์ 1 Overture: ปฐมบท เกริ่นนำถึงเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ของไทยที่อัดแน่นด้วยความสามารถและพร้อมเติบโตเพื่อนำประเทศสู่อนาคตที่รุ่งเรือง โดย ด.ช.ดรัส วรรณสารเมธา อัจฉริยะทางดนตรีวัย 12 ปีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก องก์ 2 Greeting Lights: การต้อนรับเข้าสู่ประเทศไทย องก์ 3 Thai Fighting Spirit: นำเสนอความเข้มแข็งของจิตวิญญาณนักสู้ผ่านศิลปะป้องกันตัว (Thai Martial Arts) ผสมผสานกับดนตรีรูปแบบใหม่ของวง Brass Session องก์ 4 Joy & Join: ร่วมพลังแห่งอนาคต โดย เก่ง – ธชย ประทุมวรรณ ที่มาแสดงความสามารถในการประยุกต์เพลงไทยเดิมเข้ากับดนตรีร่วมสมัยอย่างลงตัว และ องก์ 5 Miracle of Smile: มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม การเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาติไทยที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมฉลองไปด้วยกัน รวมถึงการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดยกรบ โดยนักแสดงคุณภาพจาก กระทรวงวัฒนธรรม

“การแสดงนิทรรศการครั้งนี้จะทำให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยมากขึ้น เพราะอาคารแสดงประเทศไทยได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าชมงานที่เข้าคิวชมอาคารแสดงประเทศไทยในทุก ๆ วัน ตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเสียงชื่นชมจากผู้เข้าชมงาน ผู้จัดงาน และสื่อมวลชนต่างชาติว่า เรามีการเตรียมพร้อมในการแสดงศักยภาพเป็นอย่างดี มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของเทคโนโลยีและเสน่ห์ไทยแบบดั้งเดิม เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผนวกกับการฉายภาพการพัฒนาประเทศแบบ Smart Thailand ทั้งเรื่องการขนส่ง การเชื่อมต่อในยุคดิจิทัลที่เข้าถึงสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ผ่านแอนิเมชันฝีมือคนไทย ผสมผสานกับการแสดงที่เป็น Contemporary บนจอภาพขนาดใหญ่ โดย กระทรวงดิจิทัลฯ หวังว่า การจัดงานวันชาติไทยและอาคารแสดงประเทศไทยจะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นด้วยศักยภาพ และความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม ผ่านนโยบายดิจิทัลไทยแลนด์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าว
ด้าน ดร.ณัฐพล กล่าวว่า อาคารแสดงประเทศไทยนำเสนอแนวคิด การขับเคลื่อนสู่อนาคต (Mobility for the Future) ผ่านนิทรรศการ 4 ห้อง ได้แก่ ห้องที่ 1: Thai Mobility จัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์และราชรถจำลอง พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการเดินทางของคนไทยในอดีต ห้องที่ 2: Mobility of Life นำเสนอภาพยนตร์แอนิเมชัน สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน ห้องที่ 3: Mobility of the Future นำเสนอภาพอนาคตของประเทศ ผ่านเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่ต่อยอดมาจากความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของประเทศ และ ห้องที่ 4: Heart of Mobility นำเสนอภาพยนตร์สั้น ผ่านคำบอกเล่าในแง่มุมต่าง ๆ ของชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อสื่อให้เห็นว่า หัวใจหลักของการขับเคลื่อนประเทศคือ “คนไทย”
พร้อมกันนี้ ผู้เข้าชมงานยังสามารถสัมผัสเสน่ห์และมนต์ขลังของอาหารไทยขึ้นชื่อ และเลือกซื้อสุดยอดผลิตภัณฑ์คุณภาพของไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทยที่ร่วมแสดงศักยภาพของสินค้าและบริการบนเวทีระดับโลก รวมถึงกิจกรรมพิเศษภายใต้แนวคิด “The Best of Thailand” ที่นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทยจากหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ดิจิทัลสตาร์ทอัพสัญชาติไทยรุ่นใหม่ที่ร่วมหมุนเวียนจัดกิจกรรมตลอด 6 เดือน พร้อมไฮไลท์ประจำวันอย่างการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “Thai Iconic: ความเป็นไทยสู่สายตานานาชาติ” ณ เวทีหน้าอาคารแสดงประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมสนุกเสมือนได้มาเยือนประเทศไทย
“อาคารแสดงประเทศไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ครั้งนี้ นอกจากจะสร้างโอกาสให้ประเทศแสดงความพร้อมและศักยภาพในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคแล้ว ดีป้า และหน่วยงานพันธมิตรยังร่วมกันสร้างโอกาส สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในการเปิดตลาดใหม่ ด้านการค้าและการลงทุนแถบตะวันออกกลาง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อาคารแสดงประเทศไทยจะสร้างประโยชน์ให้คนไทยทุกภาคส่วนได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ และทำให้คนไทยทั้งประเทศร่วมภาคภูมิใจกับอาคารแสดงประเทศไทยอีกครั้ง” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงค่ำยังมีการจัดงาน Welcome Reception ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ โดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เพื่อประกาศความพร้อมของไทยในการเปิดโอกาสทางธุรกิจ และเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก โดยมีผู้บริหารระดับสูง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจากประเทศต่าง ๆ ตลอดจนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์เข้าร่วมภายในงาน
ติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมภาคภูมิใจกับอาคารแสดงประเทศไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ได้ที่ www.expo2020dubaithailand.com Facebook และ Instagram: expo2020dubaithailand
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีตนักการทูต วิพากษ์ 'ศาลาไทย' ในเอ็กซ์โป 2025 สรุปชัดผิดพลาดเรื่องใดบ้าง
นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงทัศนะต่อ Thai Pavilion in Expo 2025 Osaka ว่า ศาลาไทย..ตั้งโจทย์ผิด..ชีวิตเปลี่ยน
พ่อเมืองโคราช นำประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล
'ศาลาไทย' กระหึ่มเวิลด์เอ็กซ์โป นายกฯมอบหน่วยงานเตรียมพร้อมงานครั้งหน้าเรื่องสาธารณสุข
“ศาลาไทย” ในเวิลด์เอ็กซ์โป ดูไบ ได้รับความสนใจผู้เข้าชมล้นหลาม นายกฯมอบหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมการเข้าร่วมงานครั้งถัดไปปี 2025 ที่ญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสดึงดูดอุตสาหกรรม Medical ลงทุนประเทศไทย


