'กัญจนา' เคลียร์ดราม่า พา 'พลายศักดิ์สุรินทร์' กลับไทย

‘กัญจนา’ แจงดราม่า เบื้องหลังพา ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ กลับบ้าน บริจาคสีทอง 2.8 ตัน ทาองค์พระ ไม่ใช่ทองคำหลายกิโล

3 ก.ค. 2566 – น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามสถานการณ์ของพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่ได้เดินทางถึง สถาบันคชบาล ที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางแล้ว ว่า เท่าที่ทราบพลายศักดิ์สุรินทร์ นอนได้ กินได้ ซึ่งเท่าที่เราทราบกันคือพ่อพลาย เป็นช้างที่เชื่องมาก และอ่อนโยน เชื่อฟัง ปรับตัวได้เร็ว ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์ก็จะได้เริ่มตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เราก็ต้องให้เวลาและรอฟังผล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าจะส่งพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับศรีลังกาหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ขอเรียนว่า เงื่อนไขที่เจ้าอาวาสที่ได้กรุณาให้พลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาตัว โดยท่านได้ใช้คำว่า “กระทั่งแข็งแรงเต็มร้อย” ซึ่งคำๆ นี้ ก็วินิจฉัยยาก และเมื่อดูจากสภาพของพ่อพลายแล้ว ซึ่งทรุดโทรมมาก น่าจะต้องรักษาตัวอยู่ที่เมืองไทยอีกยาวอาจจะจนสิ้นอายุขัยของเขา

ส่วนกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงเบื้องหลังการกลับของพลายศักดิ์สุรินทร์ ประเด็นที่ น.ส.กัญจนาได้ บริจาคเงินเป็นจำนวนมาก และบริจาคทองคำจำนวนหลายกิโลกรัม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร น.ส.กัญจนา กล่าวว่า “เป็นเมตตาของเจ้าอาวาสที่กรุณาปล่อยให้เรานำพลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาตัวได้ เพราะถ้าท่านเจ้าอาวาสไม่เมตตาปล่อยน้องเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด เนื่องจากรัฐบาลไทยยกให้รัฐบาลศรีลังกาแล้ว และรัฐบาลศรีลังกามอบให้กับวัด แต่ด้วยเมตตาของเจ้าอาวาสก็เลยทำให้เรานำน้องกลับมารักษาได้ กัญจนาจึงมีจิตศรัทธาที่อยากจะทำบุญ และได้ทราบว่าท่านเจ้าอาวาสกำลังสร้างองค์พระใหญ่องค์หนึ่งที่วัด และขาดสีทองที่จะใช้ทาองค์พระ ซึ่งในศรีลังกาไม่มีจะต้องสั่งจากเมืองไทย ทั้งหมดจำนวน 2.8 ตัน กัญจนาจึงมีจิตศรัทธาที่จะขอถวายสีทองดังกล่าวให้กับเจ้าอาวาส เพราะท่านได้กรุณาเมตตาให้พลายศักดิ์สุรินทร์ออกมารักษาตัว ขอย้ำว่า สีทอง ไม่ใช่ ทองคำ ไม่ใช่ เงื่อนไขอย่างที่นำไปวิพากษ์วิจารณ์กัน เป็นการที่กัญจนามีจิตต้องการทำบุญ เพราะพระเมตตาให้เรานำศักดิ์สุรินทร์ออกมาได้ การที่ถูกนำไปดราม่ากันก็อาจจะเป็นการรู้เลาเลาแล้วก็เลยเข้าใจกันผิด ก็ขอชี้แจง”

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ตนมีแผนว่าจะเดินทางไปเยี่ยมพลายศักดิ์สุรินทร์ที่ลำปาง เมื่อเขาพ้นกักตัว 30 วันแล้ว และทางสถาบันคชบาล อนุญาตให้ประชาชนเข้าเยี่ยม ระหว่างนี้ตนและเอฟซีของพ่อพลายก็ติดตามดูจากเพจของกรมอุทยานฯ และเพจของสถาบันคชบาลไปก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทัพภาคที่ 2 แจ้ง ไร้ปะทะหนัก แต่ เขมรยัง ส่งกำลังบำรุง–ปล่อยโดรนถี่ยิบตามแนวชายแดน

องทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วานนี้ (29 ธ.ค. 68 ) พบว่า ภาพรวมยังไม่มีการปะทะด้วยอาวุธหนัก อย่างไรก็ตาม ยังคงตรวจพบความเคลื่อนไหวทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งกำลังบำรุงและการใช้อา

ครบ 72 ชั่วโมงเที่ยงนี้! ‘นันทิวัฒน์’  จับตารอบ 3 หากเขมรกล้าเปิด ไทยต้องจัดหนักจัดเต็ม

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์

'จีน-ไทย-เขมร' เปิดฉากไตรภาคี นานาชาติร่วมยินดีหยุดยิง

'จีน-ไทย- กัมพูชา' หารือไตรภาคี หลังหยุดยิง นานาชาติร่วมยินดีไทย กต. ยืนยันยังคงรวบรวมหลักฐานทุ่นระเบิด เสนอตามกรอบออตตาวา ในฐานะรัฐภาคีที่รับผิดชอบต่ออนุสัญญา

เฝ้าระวัง72ชม. จับตา‘กัมพูชา’ เบี้่ยวเจอสวน!

ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ แจงเฝ้าระวังหยุดยิง 72 ชั่วโมง ชี้ตัวเลขที่เหมาะสม-ระดับมาตรฐานสากลใช้กันทั่วโลก ชี้บทเรียนฉีกข้อตกลงไทยพร้อมตอบโต้ป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อ

หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!

ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม