นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรม ปี 64 รับรัฐบาลก็อ่วมเหมือนกัน

นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรม ปี 64 ยันเร่งฟื้นฟู ออกมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว รับรัฐบาลก็อ่วมเหมือนกัน หลังรายได้หายไป ยืนยันเดินหน้าทุกอย่างต้องมีกติกา ผ่านความเห็นชอบปชช. ขอเข้าใจ

13 ธ.ค.2564 - ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 พร้อมกล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการมอบรางวัลและมีการชมเชยต่างๆนายกรัฐมนตรีมีความสุข เพราะแสดงให้เห็นว่าเราได้มีการพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ ที่ผ่านมาทุกคนทราบดีว่าเราเผชิญกับปัญหาในเรื่องของสินค้าการเกษตร ที่มีความผันผวนในเรื่องของราคาในตลาดโลกเป็นระยะเวลานานหลายปี รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และหาวิธีการที่จะทำให้ประชาชน ได้ประโยชน์ ตั้งแต่ลดต้นทุนการผลิต การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าจนถึงการค้าขายด้วยตัวเอง ในส่วนภาคอุตสาหกรรมนั้นรัฐบาลสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาและต่อยอด ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศในเรื่องเพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขัน เพื่อให้สอดรับกับการบริหารจัดการของระบบราชการ ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาได้มากพอสมควร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างสามารถทำได้สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งวันนี้เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริม แต่ปีนี้เราต้องมาเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รัฐบาลก็พยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตของประชาชนในวงกว้าง รวมทั้งการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศก็ลดลง แต่ขณะนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆ หลังการค้าระหว่างประเทศหดตัวลงรุนแรง ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ตนรู้ว่าทุกท่านสู้ คาดหวังว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น จะเห็นได้จากสถิติการท่องเที่ยว การเปิดประเทศ การดูแลเรื่องแรงงาน ซึ่งตนพยายามดูในทุกมิติให้มากที่สุด ถ้าเรายังไม่เข้มแข็งเพียงพอวันข้างหน้าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกก็จะต้องเผชิญสถานการณ์แบบเดิม แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลช่วยเหลือเยียวยา ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมก็ต้องมีความเข้มแข็งพร้อมรับสถานการณ์ในวันข้างหน้า รัฐบาลพยายามพยายามดำเนินการมาทุกเรื่อง ทั้งการแบ่งเบาภาระเสริมสภาพคล่องการเงินหรือการยกเว้นค่าทำเนียมต่างๆ

“ยอมรับว่ารัฐบาลก็อ่วมเหมือนกัน ในการดูแลพวกท่าน รายได้ก็หายไป ขณะเดียวกันการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐก็ต้องใช้ในหลายส่วน จึงขอให้เข้าใจซึ่งกันและกันด้วย ผมไม่ได้ต้องการที่จะไปเพิ่มภาระให้กับใครทั้งสิ้น หวังแต่เพียงให้ฟื้นฟูกลับคืนมาและเข้มแข็งโดยเร็วเหมือนเช่นก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด ทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่รูปเดิมและพัฒนาดีขึ้นในอนาคตในโลกหลังโควิด ซึ่งวันเดียวกันนี้ก็ได้ให้แนวทางทั้งในส่วนมาตรการการสร้างแรงจูงใจ รวมทั้งการลงทุนอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งบีโอไอได้ปรับแก้ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลแล้ว”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเตรียมการสู่อนาคต ซึ่งอาจไม่ไกลนักที่เราจะต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อตกลงต่างๆที่มีมาตรฐานสูงตามระบบการค้าเสรี ซึ่งจะครอบคลุมถึงการเปิดตลาดสินค้าบริการและการลงทุน รวมทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายทรัพย์สินทางปัญญา การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ มาตรฐานแรงงาน สิ่งแวดล้อม วิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม วันนี้เป็นโลกไร้พรมแดนต้องไม่ลืมว่าเราต้องเจอกับคู่แข่งขันจากหลายประเทศมากขึ้นและรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีความพร้อมวันนี้วันข้างหน้าก็จะลำบาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมและการลงทุนต่างๆโดยต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ในเมื่อนโยบายของรัฐบาลมีการส่งเสริมในด้านต่างๆแล้ว ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการจะขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใดก็ตาม การทำประชาพิจารณ์ การจัดให้มีการศึกษาผลกระทบในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA ทุกอย่างล้วนแต่มีกติกาทั้งสิ้น การปรับเปลี่ยนผังเมืองก็ขึ้นอยู่กับประชาชน รัฐบาลไม่สามารถกำหนดให้เป็นนั่นเป็นนี่ได้โดยที่ประชาชนไม่เห็นชอบ เรื่องนี้ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน เป็นสิ่งที่กำลังแก้ปัญหากันอยู่ ทุกคนคงทราบดี อะไรที่มีปัญหาเราก็ต้องแก้ไข ทำให้ครบถ้วนถูกต้องได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ แต่ทั้งหมดต้องมีกฎหมายเป็นข้อกำหนดที่หน่วยงานต่างๆถืออยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุดและคิดว่าประเทศไทยกำลังพัฒนาไปสู่แนวทางที่เหมาะสมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ รับไม่มีสิทธิ์โกรธ ฝึกคุมอารมณ์ พร้อมหาวิธีปรับจูน สส.เพื่อไทย

นายกฯ รับต้องปรับจูนทำความเข้าใจ สส.เพื่อไทย หลังมีเสียงสะท้อนยังมีระยะห่าง ลั่นไม่น้อยใจ ไม่โกรธ ไม่งอน แจงต้องเข้มเรื่องงบ