
‘อนุทิน’ สั่งผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เร่งตั้ง กก.สอบ ‘นายกเทศมนตรีบางแก้ว’ เรียกเงินใต้โต๊ะ พร้อมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน ฮึ่มผิดจริงลงโทษเด็ดขาด
22 ก.ย. 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การเดินหน้าปราบปรามการทุจริตในทุกระดับเป็นหนึ่งนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขณะนี้ได้ปรากฎข้อร้องเรียนอยู่โดยต่อเนื่อง จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นอีก โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดมีการติดตามตรวจสอบการอนุมัติ การดำเนินโครงการต่างๆ ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้มีความโปร่งใส ลงโทษเด็ดขาดทันที หากพบการกระทำผิด สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้ได้
“รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องเหล่านี้ถือเป็นตัวถ่วงการพัฒนาของประเทศ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น ผมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดช่วยกันตรวจสอบเพื่อให้ทุก อปท.โปร่งใส สามารถเป็นองค์กรที่ดูแลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง” นายอนุทิน ระบุ
ส่วนกรณีที่ปรากฏในรายงานข่าวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่านายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ได้เรียกรับสินบนจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแข่งขันในโครงการรัฐ กระทรวงมหาดไทย ฐานะหน่วยงานกำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเรื่องนี้ขั้นตอนการตรวจสอบตามกฎหมายจะอยู่ในอำนาจของหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทราปราการ ที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวน และสามารถสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ระหว่างสอบสวนได้ เป็นไปตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดว่าเมื่อความปรากฏโดยมีหลักฐานตามสมควรต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่านายเทศมนตรีละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือ ประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยพลัน และให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและเมื่อนายกเทศมนตรีถูกตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรอฟังผลการสอบสวนก็ได้
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว หากมีมูลความผิด จะต้องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งให้พ้นตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่ง พรบ.เทศบาล พ.ศ.2496 เพื่อสั่งพ้นตำแหน่งภายใน 30 วันต่อไป
“ทุกขั้นตอนต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวดเร็ว เป็นไปตามฎหมาย โดยไม่มีการละเว้น ซึ่งหากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการก็จะเป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ จะผิดเอง ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย อยู่ใต้กฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่จะดำเนินการให้เด็ดขาดกับการทุจริตและผู้มีอิทธิพล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)
'ภท.' เปิด 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ จับตา 24 ธ.ค. 'อนุทิน' แถลงนโยบาย โชว์ 3 แคนดิเดตนายกฯ
'ภท.' เปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์แบบไม่จัดอันดับ คนดัง-บ้านใหญ่-ทายาทนักการเมืองมาครบ จับตา 24 ธ.ค. 'อนุทิน' นำแถลงนโยบาย พร้อมเปิดตัว 3 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ
'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย
'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร
'อนุทิน' หัวโต๊ะ ภท. วางนโยบายหาเสียง คัดผู้สมัครรอบสุดท้าย
'อนุทิน' หัวโต๊ะ ภท. ถกวางนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง คัดผู้สมัคร สส. รอบสุดท้าย '3 แคนดิเดตนายกฯ' พยายามให้ชัดวันนี้
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
นายกฯ ถกด่วน 'เลขาฯสมช.' หลังพบสายลับเขมร-ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน
นายกฯ เรียกถกด่วน 'เลขาฯ สมช.' ติดตามสถานการณ์ไทยแดนไทยกัมพูชา หลังพบสายลับทหารฝั่งเขมร - ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน รับมีโอกาสขยายพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก

