
“สมศักดิ์” นั่งรถราง 7 กิโล เข้าจุดเกิดเหตุรถไฟตกราง จ.แพร่ เผย 6 โมงเย็นวันนี้ กลับมาใช้ได้ปกติ สั่ง เตือนประชาชนริมน้ำยม ขนของขึ้นที่สูง กำชับจ.สุโขทัย เตรียมรับมวลน้ำ 4 อำเภอ
1 ต.ค.2566 – เมื่อเวลา 13.00 น.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย และนายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุน้ำป่าทะลัก ส่งผลให้รถด่วนพิเศษตกราง ซึ่งได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยมี นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ บรรยายสรุปเหตุการณ์
โดยนายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้นั่งรถรางช่วยเหลือ ระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟบ้านปิน เพื่อไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ทางขาดเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร และเกิดเหตุรถไฟตกราง จนทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รถไฟสถานีนี้ในแต่ละวัน จะไปกลับทั้งหมด 12 ขบวน เมื่อเกิดเหตุตกราง ก็ต้องยอมรับว่า ส่งผลให้ผู้เดินทางได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เร่งดำเนินการแก้ปัญหา โดยคาดว่า น่าจะกลับมาใช้สัญจรได้ปกติ ในเวลา 18.00 น. ของวันนี้ เพื่อให้ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน เพราะมีรถขบวนใหญ่รออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะผ่านเข้ากรุงเทพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องเขื่อนลำน้ำยมเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะคุยกันตอนเย็น โดยเราจะเพิ่มระบบความปลอดภัย จะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ หรือ สร้างอะไรที่ทดแทนกันได้ ซึ่งจะนำข้อมูลทั้งหมดมาหารือกันในช่วงเย็นวันนี้ที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทยและคณะ ได้ลงพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งนายวรวัจน์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดแพร่ ได้มีฝนตกลงมา ตั้งแต่วันที่ 26 – 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีมวลน้ำสะสม ประกอบกับเกิดน้ำป่าหลาก จึงทำให้เวลานี้ มวลน้ำสูงถึง 11.18 เมตร ส่งผลให้สถานการณ์น้ำ มีความรุนแรงและอันตรายเป็นอย่างมาก ตนจึงอยากให้จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก เตรียมความพร้อมในการรับมวลน้ำนี้ด้วย เพื่อช่วยกันลดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำที่ตนเองได้เดินทางมาติดตามที่จังหวัดแพร่ ก่อนจะไหลไปรวมที่จังหวัดสุโขทัยนั้น ทำให้ต้องเร่งเตือนพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยม ให้เก็บข้าวของขึ้นที่สูง รวมถึงในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสุโขทัย คือ อำเภอเมือง อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอศรีสำโรง ต้องเตรียมตัวรับมือกับมวลน้ำด้วย โดยขณะนี้ เบื้องต้นตนได้ประสานให้ทางจังหวัด เตรียมพร้อมในการรับมือมวลน้ำนี้แล้ว รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วน เพราะตนต้องการให้พี่น้องประชาชน ได้รับผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
‘สมศักดิ์’ ลุยตาก หนุนผู้สมัครเพื่อไทย ชูแก้ที่ดิน-ดันเกษตร คุมกัญชาแค่การแพทย์
“สมศักดิ์” ลุยช่วยผู้สมัคร สส.ตาก “ชัยณรงค์-พิษณุ” ชู พรรคเพื่อไทย มีแคนดิเดตนายกฯเป็นนักวิจัย ช่วยเกษตรกรได้เต็มที่ ขอ มั่นใจ
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น ยอดดอยหนาวจัด ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ
“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร
‘สมศักดิ์-อนุชา’ ลุยบางบาล ฟังเสียงชาวบ้านน้ำท่วม สานต่อแผนจัดการน้ำปี 54
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุชา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อม
เรื่องราวทีมงานด่านหน้าของทรู ที่ทุ่มเททำงานด้วยหัวใจ เพื่อให้ทุกสัญญาณเชื่อมต่อกันในวิกฤตอุทกภัยภาคใต้
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและชีวิตผู้คน แต่ยังตัดขาดการสื่อสารในหลายพื้นที่ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีทีมงานด่านหน้าของทรูที่ทุ่มเททำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ไม่เพียงดูแลเครือข่าย แต่ยังทำให้ทุกสัญญาณยังสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อ รับข่าวสาร และส่งความห่วงใยถึงกันได้ในช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุด

