'คารม' เผย ครม. มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 ออกไป 1 ปี
16 พ.ย.2566 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พ.ย.มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 ออกไป 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
นายคารม กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2554 ซึ่งบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้ออกกฎหมายลำดับรอง จำนวน 19 ฉบับ โดย สธ.ได้ยกร่างกฎหมายลำดับรองและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน 18 ฉบับ ขณะนี้ยังมีกฎหมายลำดับรองที่อยู่ในขั้นตอนการจัดทำร่างกฎหมายอีก 1 ฉบับ แต่โดยที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานฯ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกำกฎหมายฯ มีผลบังคับใช้ การออกกฎหมายลำดับรอง จึงต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายฯ ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี จึงมีความจำเป็นต้องเสนอ ครม.เพื่อขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรอง จำนวน 1 ฉบับดังกล่าว
“ร่างประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานจากผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. .... อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้จ้างงานสามารถเรียกหรือรับหลักประกันการทำงาน หลักประกันความเสียหายในการทำงานจากผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้จ้างงานและผู้รับงาน กรณีที่งานที่รับไปทำมีมูลค่าสูงหรือมีปริมาณมาก เพื่อคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน มิต้องเดือดร้อนในการหาหลักประกันเกินกว่าที่กำหนด และป้องกันมิให้ผู้จ้างงานแสวงหาผลประโยชน์จากหลักประกันโดยไม่สมควร” นายคารมกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
รัฐบาลคาดวันหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดหมื่นล้าน
รัฐบาลคาดช่วงหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน เหตุอากาศเย็นสบาย-มาตรการรัฐหนุนท่องเที่ยวคึกคัก
ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี
นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org
ข่าวดี! ผู้ป่วยมะเร็งปอดใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว
เริ่ม 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ผู้ป่วยมะเร็งปอด สามารถใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต
ค่าฝุ่นพิษพุ่ง! รัฐบาลสั่งเดินหน้า 90 วันอันตรายลด PM2.5
ค่าฝุ่นพุ่งทั้งประเทศ–กทม.เจอหนัก 49 เขตสีแดง–ส้ม รัฐบาลสั่งเดินหน้า '90 วันอันตราย' ตรวจควันดำเข้ม ลด PM2.5
ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม
เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.


