14 ธ.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงว่า กมธ.ได้ประชุมเพื่อพิจารณากรณีการดำเนินการเหตุการณ์ สลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม สำนักงานประจำจังหวัดยะลา ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบัน คดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าและกำลังจะขาดอายุความ
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สำนักงานอัยการภาค 9 ตำรวจภูธรภาค 9 สถานีตำรวจภูธรตากใบ และสถานีตำรวจภูธรหนองจิก เข้าชี้แจงประเด็นการเยียวยา การชดใช้การช่วยเหลือบุคคล และครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย ผู้บาดเจ็บ และกรณีทรัพย์สินเสียหายหรือสูญหาย โดยคดีนี้ได้มีการจ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว และมีการทำบันทึกว่าจะไม่มีการดำเนินคดีอาญาใดๆอีก ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวไม่สามารถทำให้คดีซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความกันได้ ส่วนกรณีของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ขณะเดียวกันประเด็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งกระทำหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากระยะเวลาเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันล่วงเลยมาเป็นระยะเวลานาน จึงไม่พบสำนวนการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ก่อเหตุ เป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินการทางคดีได้แต่อย่างใด
นายกมลศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้แทนจากสำนักงานอัยการภาค 9 และตำรวจภูธรภาค 9 ขอเวลาในการติดตาม สำนวนการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องและจะแจ้งผลการดำเนินการหรือผลความคืบหน้าเป็น หนังสือต่อกมธ.ภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันประชุม ทั้งยังมีข้อเสนอ ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนเพื่อสอบหาสำนวน การดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐในเหตุการณ์ดังกล่าว กมธ.จึงมีมติให้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้เร่งรัดดำเนินการติดตามผลหรือความคืบหน้าของคดี และหากมีการละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อาจเข้าข่ายความรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย
“เหตุการณ์สลายการชุมนุมกรณีตากใบนี้ เป็นกรณีที่มีความร้ายแรง แม้รัฐจะดำเนินการเยียวยา บุคคลผู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจเป็นเหตุให้คดีซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดินระงับ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย เพื่อตอบคำถามของสังคมก่อนที่คดีจะขาดอายุความ”นายกมลศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กมธ.กฎหมายฯ เล็งเชิญ 'อัจฉริยะ-รองโจ๊ก' แจง ขรก.โยงทุนสีเทา หวั่นกระทบกระบวนการยุติธรรม
กมธ.การกฎหมายฯ วุฒิสภา เล็งเชิญ 'อัจฉริยะ-รองโจ๊ก' เข้าชี้แจง หลังเดินสายแฉข้าราชการไทยโยงทุนสีเทา หวั่นกระทบความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ตอบปมพยานคดีฮั้ว สว. กลับคำให้การ จะประสานงานกับ ‘ฉัตรวรรษ’ ร่วมกันตรวจสอบ
ในประเทศที่เสรีภาพดังขึ้นทุกวัน แต่เสียงของมารยาทเบาลงเรื่อย ๆ
แผ่นดินไทยในยุคนี้เต็มไปด้วยเสียงของการแสดงออก ใคร ๆ ก็พูดได้ คิดได้ โพสต์ได้ และเชื่อว่าการส่งเสียงของตนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย
กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงป้อง 'อังคณา' ขอทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงเรียกร้อง รัฐบาล-หน่วยงาน คุ้มครองปัญหาข่มขู่คุกคาม ป้อง "อังคณา" เป็นเพียงผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิดใด ๆ ขอ ปชช. อย่าปฏิเสธเรื่องสิทธิมนุษยชน หวั่น เสียเปรียบในเวทีโลก วอน ทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ
‘อังคณา’ร้องตร.ขอคุ้มครอง
"สว.อังคณา" ควง "สุณัย" ยื่นขอ ผบ.ตร.นำตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตจากเอฟซี "กัน จอมพลัง" ยันเป็นคนไทย รักชาติไม่น้อยไปกว่าใคร
‘สว.อังคณา-สุณัย’ ยื่นขอ ผบ.ตร.ส่งตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย
นางอังคณา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผบ.ตร.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ตนถูกคุกคามทางสื่อออนไลน์ โดยมีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตต่อตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงนายสุณัย ตั้งแต่หลังจากไปออกรายการดังหลายรายการ หลังจากนั้นแฟนคลับของ “กัน จอมพลัง” ก็โจมตีตน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน


