ศาลอาญาฯ ประทับฟ้อง 'พิรงรอง รามสูต' กสทช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

14 มี.ค. 2567 - ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนคดีที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัดยื่นฟ้อง ศาสตรจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยฟังคำสั่งวันนี้ ฝ่ายโจทก์มีทนายความเดินทางมาศาล ฝ่ายจำเลยมีพนักงานอัยการที่มาช่วยเเก้ต่างเดินทางมาฟังคำสั่ง

โดยศาลมีคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า ทางไต่สวนได้ความว่า โจทก์ (ทรู) เป็นผู้ประกอบกิจการ OTT (over the top ซึ่งเป็นบริการสื่อที่นําเสนอโดยตรงกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต โอทีทีข้ามแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิลและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม)

เป็นการให้บริการที่ กสทช.ยังไม่ได้มีประกาศ หรือออกกฎเกณฑ์ในการกำกับดู และจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าการให้บริการของโจทก์แม้จะถือว่าเป็นการให้บริการประเภท OTT ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทางไต่สวนมีเหตุให้เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งการให้รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.ในขณะนั้น ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จำนวน 127 ราย มีข้อความว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่าง ๆ ที่โจทก์ส่งไปออกอากาศ พฤติการณ์ของจำเลยส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยชอบมิชอบ คดีโจทก์มีมูลจึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีดำ อท.167/2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมูลเหตุการฟ้องคดีนี้เนื่องจากเดิม บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เป็นผู้บริการแพลตฟอร์มมือถือมีรายการหนัง เเละเพลงรวมทั้งถ่ายทอดรายการทีวีช่องต่างๆ รวมทั้งการสัมภาษณ์นักการเมือง ซึ่งกสทช.ยังไม่ได้มีประกาศ หรือออกกฎเกณฑ์ในการกำกับดู และจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าการให้บริการของโจทก์แม้จะถือว่าเป็นการให้บริการประเภท OTT ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จึงยังไม่ยื่นขออนุญาต ต่อมา กสทช.ประกาศว่าต้องผ่านการอนุญาต ทางทรูก็ไม่ขัดข้องเพียงแต่เมื่อเข้ากระบวนการอนุญาตก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย (มีการตรวจเซ็นเซอร์เนื้อหา)เเต่จำเลยเป็นผู้สั่งการให้รักษาการรองเลขาธิการกสทช.ในขณะนั้น ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จำนวน 127 ราย มีข้อความว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่ต้องมีการขอใบอนุญาต พร้อมมีการกล่าวถ้อยคำในที่ประชุมที่มีถ้อยคำเป็นเหตุบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ได้รับความเสียหาย

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อคดีมีมูลเเละศาลมีคำสั่งให้ประทับฟ้องแล้ว ต่อไปจะดำเนินกระบวนการสอบคำให้การและนัดตรวจหลักฐานต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ ‘สายด่วน 1818’

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดให้บริการ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน “1818” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

ทรู สนับสนุนกสทช.และตำรวจ ร่วมสกัดขบวนการ SIMBOX ลดช่องโหว่ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมไซเบอร์ และเสริมมาตรฐานความปลอดภัยดิจิทัลของประเทศ

ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการป้องกันภัยไซเบอร์และโทรหลอกลวง. ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัลของประเทศ

กสทช. ผุดแคมเปญ “รู้ก่อน รอดก่อน ปลอดภัยไปกับ กสทช.” ปักธงต้านภัยไซเบอร์ที่กาญจนบุรี

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ยกระดับการป้องกันการหลอกลวงประชาชนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการส่ง SMS ปลอม