'นายกสมาคมทนายความ'กระตุ้นทุกฝ่ายอดกลั้นรับมือปัญหาใหญ่ในปี 65

31 ธ.ค. 2564 – นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกสารอวยพรปีใหม่ ความว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากวิกฤตใหญ่สามประการ ได้แก่ วิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งสามวิกฤตมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน

สำหรับวิกฤตจากโควิด-19 เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสและเป็นกันทั่วโลก วิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญาณการถดถอยมาตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจการปกครองเมื่อปี 2557 แล้วต้องได้รับความเสียหายอย่างทวีความรุนแรง ฐานะทางการคลังของรัฐบาลที่เปราะบางอยู่แล้วต้องอยู่ในภาวะที่สุ่มเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ล่าสุดรัฐบาลต้องขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะจากไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพีเป็นไม่เกินร้อยละ 70 ของจีดีพี

ประเทศไทยจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน แต่อุปสรรคสำคัญคือความขัดแย้งทางการเมืองอันเป็นผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญที่อีกฝ่ายเห็นว่าถูกร่างขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ รัฐบาลจึงควรยุติความขัดแย้งดังกล่าวด้วยกลไกตามรัฐธรรมนูญด้วยการทำประชามติสอบถามประชาชนว่าต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างขึ้นโดยประชาชนหรือไม่ หากผลการลงประชามติออกมาในทางใดก็ปฏิบัติไปตามนั้น ความขัดแย้งที่เกิดจากรัฐธรรมนูญก็จะยุติลง ประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้โดยสันติวิธี

สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้มีความอดกลั้นต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยพึงตะหนักว่าไม่มีประเทศใดในโลกสามารถพัฒนาได้ท่ามกลางความขัดแย้งของผู้คนในชาติ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยยังเห็นต่อไปว่าเครื่องมือเดียวที่จะนำพาประเทศออกจากหล่มความขัดแย้งครั้งนี้ได้คือ “หลักนิติธรรม” ที่จะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยอมรับ การนำพาประเทศออกจากวิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายต่อกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องเป็นผู้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่มาจากวิกฤตทางการเมืองที่สะสมมาอย่างยาวนาน

เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565 ผม นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขออวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข สมหวัง ตลอดปี 2565