นายกฯ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางระบบการทำงาน ช่วยเหลือประชาชนรับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการมีผลบังคับใช้ของความตกลง RCEP
7 ม.ค.2565- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเกี่ยวกับประโยชน์ที่ประชาชนในประเทศไทยจะได้รับจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาว่า ความตกลง RCEP เป็นเขตการค้าเสรี (FTA) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกครอบคลุมกว่า 15 ประเทศ ได้แก่ 10 ประเทศอาเซียน รวมกับอีก 5 ประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ครอบคลุมประชากรมากถึง 2.3 พันล้านคน หรือกว่า 1 ใน 3 ของโลก จึงมีตลาดในการนำเข้าเเละส่งออกสินค้าและบริการที่กว้างขวาง RCEP ยังเป็นความตกลงทางการค้าที่เปิดกว้างที่สุด และครอบคลุมหลายด้านที่ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคในแต่ละประเทศสมาชิก โดยเฉพาะการลดภาษีสินค้านำเข้าสูงที่สุดถึงร้อยละ 99 ของสินค้าทั้งหมด ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้สินค้าไทยเข้าถึงตลาดประเทศสมาชิก RCEP ได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง อีกทั้งมีมาตรการที่อำนวยความสะดวกในการลงทุนขยายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติในไทย เช่น ในโครงการ EEC
นายธนกร กล่าวว่า ประโยชน์ที่ประชาชน เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการไทย จะได้รับจากความตกลง RCEP ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกลดหรือยกเลิกกฎระเบียบและมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุน อาทิ ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า (ภาษีเหลือ 0%) สำหรับสินค้าส่งออกไทย จำนวนกว่า 29,891 รายการ ที่จะช่วยลดต้นทุนในการผลิตสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออก เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับสินค้าส่งออกของไทย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการได้รับการอำนวยความสะดวกหรือลดความยุ่งยากทางการค้า โดยเฉพาะด้านพิธีศุลกากร และเพิ่มช่องทางออนไลน์สำหรับการยื่นเอกสารขอนำเข้าสินค้าเป็นการล่วงหน้า
นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้มีการปรับประสานมาตรฐานและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของประเทศผู้นำเข้า ให้มีความชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน ,ลดหรือ ยกเลิกข้อกำหนดด้านการลงทุน ที่เป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อนักลงทุนต่างชาติภายในประเทศสมาชิก อาทิ สัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ เงื่อนไขสัญชาติของผู้ให้บริการ และกฎระเบียบในการจัดตั้งกิจการหรือการลงทุน และเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิกในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น บริการสำหรับผู้สูงอายุ และโรงพยาบาล
นายธนกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ความตกลง RCEP ยังจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจประเทศหลายล้านรายที่กระจายอยู่ในภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากความตกลงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้และการจ้างงานให้กับประเทศมากขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสให้ไทยสามารถเปิดรับการลงทุน และการพัฒนาจากประเทศสมาชิก ในสาขาที่ไทยมีความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การวิจัยและพัฒนา การศึกษา สิ่งแวดล้อม การซ่อมบำรุงชิ้นส่วนอากาศยานหรือเรือขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ขนส่งทางราง และการผลิตหุ่นยนต์สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดรับกับโอกาส สิทธิประโยชน์ที่ไทยได้รับภายใต้ความตกลง RCEP พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนา ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เอกชน ผู้ประกอบการ ให้ได้ใช้และรับประโยชน์จากความตกลงฯ ดังกล่าวอย่างเต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลสั่ง บสย.เร่งลุยมาตรการปล่อยสินเชื่อกระบะมือสอง
รัฐบาลให้ บสย. ส่งมาตรการ 'กระบะ (มือสอง) พี่มีคลังค้ำ' กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วย SMEs ซื้อรถกระบะ คาดก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 3,400 ล้านบาท รักษาการจ้างงานกว่า 153,000 ตำแหน่ง
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้เกมเปลี่ยนม้ากลางศึก นายกฯ คนใหม่อาจเป็น 'ประยุทธ์' หรือ 'ชัยเกษม'
"ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม" วิเคราะห์ศาลรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มชี้ขาดให้ “แพทองธาร” หลุดเก้าอี้นายกฯ 29 ส.ค.นี้ เปิดเกมการเมืองร้อนแรง พรรคเพื่อไทยยังคุมเสียงข้างมาก แต่ตัวเลือกนายกฯ คนต่อไปอยู่ระหว่าง “ชัยเกษม นิติสิริ” กับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งแม้เป็นองคมนตรีแต่ยังไม่ขาดคุณสมบัติ
ดิจิทัลฟุตปริ้นท์ 'พ่อนายกฯ' หลอน 'อิ๊งค์' เคยแนะ 'ประยุทธ์' ถอย ไม่รอศาลตัดสิน
ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยพูดไว้ว่า "ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอศาลตัดสิน ถอยแล้วหล่อกว่า
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ปมศาลรธน.ไม่รับคำร้องตั้ง 'ธรรมนัส' ไม่เกี่ยวจริยธรรมร้ายแรง
นักกฎหมายมหาชน เตือน รัฐบาลแพทองธาร เสี่ยงซ้ำรอย “เศรษฐา” หากเดินหน้าดันชื่อ “ธรรมนัส” เข้าครม. ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.กรณีเดิม ไม่ได้ตัดสินเนื้อหา จึงไม่เป็นบรรทัดฐานในการตั้งรัฐมนตรีได้
ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัย 'พล.อ.ประยุทธ์' พ้นนายกฯ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายพีรพงษ์ ทรัพย์กิจธนากุล ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โฆษก พปชร. เผย 2 ป. ต่อสายให้กำลังใจ 'บิ๊กป้อม'
พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ลื่นล้มเล็กน้อย จนเป็นข่าวที่สร้างความตกใจให้กับผู้ใกล้ชิดหลายฝ่าย โดยเฉพาะ


