“พีระพันธุ์” เผย ครม.เคาะต่อเวลาตรึงค่าไฟฟ้า 4.18 บาทต่อหน่วย อีก 4 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซล ตรึง 33 บาทต่อลิตร ถึง 31 ต.ค.นี้ เชื่อหลังจากนั้น กบน.ยังแบกรับไหว
23 ก.ค.2567 - เมื่อเวลา 12.15 น. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมรับทราบตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอเกี่ยวกับมาตรการลดราคาพลังงาน ซึ่งเรื่องนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน จะเป็นผู้แถลง
จากนั้น นายพีระพันธุ์ แถลงว่า เรื่องค่าไฟฟ้า ที่ประชุม ครม. มีมติต่อระยะเวลาตรึงราคา 4.18 บาทต่อหน่วยไปอีก 4 เดือน (กันยายน - ธันวาคม) รวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยเช่นเดิม และขอยืนยันในกระแสข่าวที่ว่าจะขึ้นค่าไฟฟ้านั้นไม่มี ทั้งนี้ การตรึงราคาไฟฟ้าให้อยู่ในราคาดังกล่าวนั้น กระทรวงพลังงานมีวิธีการของตนเอง ยืนยันว่าจะไม่มีผู้ใดเดือดร้อน และไม่ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปแบกรับ ซึ่งจะได้เงินส่วนต่างจากค่าไฟฟ้าไปจ่าย แต่จะจ่ายในจำนวนที่ลดน้อยลง และนำไปชำระหนี้ให้ กฟผ.ด้วย ซึ่งการชำระจะจ่ายตามงวดค่าไฟฟ้า และการชำระหนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายในงวดเดียวทั้งหมด เพราะการจ่ายหนี้งวดเดียวจบ ประชาชนจะเป็นผู้แบกรับหนี้ ซึ่งไม่มีเหตุจำเป็นที่จะทำเช่นนั้น ฉะนั้นการทยอยจ่ายเป็นรายงวดก็มีค่าเท่ากัน
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีมติตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร โดยใช้มาตรการจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรึงราคาน้ำมันนั้น จะเป็นการตรึงราคาน้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินก็เดือดร้อนเช่นกัน นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า กลไกน้ำมันเป็นเช่นนี้มานานนับเวลา 50 ปี ซึ่งตนก็ไม่พอใจ แต่ขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างเป็นกฎหมาย ขณะนี้ตนได้ร่างกฎหมายต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังส่งให้ฝ่ายกฎหมายของทีมตรวจสอบ และจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องราคาน้ำมันที่ขึ้นอยู่ในทุกวันได้
เมื่อถามว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่ทันใช้ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ใช่หรือไม่ นายพีระพันธ์ุ ยืนยันว่าไม่ทัน เพราะต้องส่งเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังจะมีร่างกฎหมาย เพราะที่ผ่านมา 50 ปี ไม่เคยมีร่างกฎหมายนี้ เมื่อถามย้ำว่าหลังวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะมีการบริหารเรื่องราคาน้ำมันอย่างไร ระหว่างรอร่างกฎหมายดังกล่าว นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องใช้ตามกฎหมายเดิมไปก่อน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ ก็มีการปรับระบบทั้งหมด และเชื่อว่าหลังวันที่ 31 ตุลาคมนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะแบกรับไหวอยู่ แต่อย่างไรก็ตามต้องไปพูดคุยกับกระทรวงการคลังว่าจะมีวิธีการอย่างไรต่อไป เมื่อถามอีกว่าหลังวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ใช้กลไกของลดภาษีสรรพสามิตมาช่วยใช่หรือไม่ นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ต้องหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมันจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายอื่นหรือไม่ ในการออกกฎหมายดังกล่าว หรือจะมีการขัดแข้งขัดขากันหรือไม่ นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ไม่มี เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์ประชาชน และประชาชนคือผู้ได้ผลประโยชน์โดยรวม และจากการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครมีปัญหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รทสช.' เปิดปาร์ตี้ลิสต์ 100 ชื่อ 'พีระพันธุ์' เบอร์ 1 'ชัช เตาปูน' ลำดับ 2
'รวมไทยสร้างชาติ' เปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'พีระพันธุ์' เบอร์ 1 'ชัช เตาปูน' ลำดับสอง 'อรรถวิชช์-นราพัฒน์-วิทยา' 3-5
'รทสช.' เตรียมเปิดตัว แคนดิเดตนายกฯ-นโยบายพรรคชุดแรก 22 ธ.ค.นี้
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เตรียมแถลงเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนโยบายชุดแรก ในวันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรค
'รทสช.' ตีปี๊บ! คนรุ่นใหม่แห่ร่วมงาน ลุยศึกเลือกตั้ง
'รทสช.' คึกคัก พร้อมเปิดเกมใหม่การเมืองไทย ลุยศึกเลือกตั้ง 69 ย้ำการเมืองต้องมีอุดมการณ์ ไม่ใช่ดีลผลประโยชน์
รทสช. ออกแถลงการณ์ ชี้แก้รัฐธรรมนูญ-ยุบสภา ซ้ำเติมวิกฤตประเทศ
“รวมไทยสร้างชาติ” ออกแถลงการณ์ ชี้ยุบสภาซ้ำเติมวิกฤต ไม่เกิดประโยชน์ประเทศ สะท้อนให้ความสำคัญการเมืองกว่าความเดือดร้อนประชาชน รทสช. พร้อมพาฝ่าขัดแย้ง ส่งผู้สมัครครบ 77 จว.
'พีระพันธุ์' ร่ายยาว จี้นายกฯต้องเป็นผู้สั่งการเด็ดขาดด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้กองทัพตัดสินใจฝ่ายเดียว
"พีระพันธุ์" จี้นายกฯ ต้องเด็ดขาด บุกยึดพื้นที่ให้จบ เจรจาทีหลัง พร้อมเตรียมยุทธการทางทะเล ขวางกัมพูชาขยับ "หลักเขต 73" ฮุบทรัพยากรไทย

