7 ต.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 พ.ต.ท.จักร จุลกะรัดน์ ผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และน.ส.ทิพย์วรรณ วรรณโสภณ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการ 4 กองคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง. นำคำสั่งอายัดไปติดประกาศหน้าประตูทางเข้าออกโครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนนนทบุรี 1 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อติดประกาศยึดทรัพย์สินโครงการก่อสร้างดังกล่าว ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัททุนจีน
แต่พบโครงการก่อสร้างดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไซต์งานก่อสร้างตลอดเวลา จากการสังเกตพบว่า ป้ายคำสั่งอายัดโครงการก่อสร้างคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ได้ถูกปลดหายไปจากหน้าประตูทางเข้าออกไซต์งานแล้ว
ล่าสุดวันนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกเอกสารข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งที่ ย. 193/2567 ลงวันที่ 18 ก.ย. 2567 ให้ยึดและอายัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ย่านสนามบินน้ำ ไว้ชั่วคราวมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน และพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. ได้นำคำสั่งยึดและอายัดไปติดประกาศหน้าประตูทางเข้าออกโครงการที่ยึดและอายัด ซึ่งต่อมาปรากฏข่าวในสื่อต่างๆ ว่าโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไซต์งานก่อสร้างตลอดเวลา อีกทั้งป้ายคำสั่งยึดและอายัดโครงการก่อสร้างริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ได้ถูกปลดหายไปจากหน้าประตูทางเข้าออกไซต์งานด้วยต่อกรณีข้อเท็จจริงที่ปรากฏในข่าว
สำนักงาน ปปง. ขอชี้แจง ดังนี้
1.โดยที่การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างตามโครงการเป็นการดำเนินการตามสัญญาทางแพ่ง ที่มีมาก่อนคำสั่งยึดและอายัดของคณะกรรมการธุรกรรมดังกล่าว หากการก่อสร้างไม่ก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดนั้นก็ย่อมสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยอยู่ภายใต้ การบริหารจัดการของสำนักงาน ปปง. ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
2.กรณีมีการปลดป้ายคำสั่งยึดและอายัดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำไปปิดไว้นั้น กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการถอน ทำให้เสียหาย ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งตราหรือเครื่องหมาย อันเจ้าพนักงานได้ประทับหรือหมายไว้ที่สิ่งใด ๆ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดหรืออายัด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 141 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสำนักงาน ปปง. จะพิจารณาดำเนินการ ตามกฎหมายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราชกิจจาฯ ประกาศ ป.ป.ง. ‘บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง’
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเรื่อง บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
ด่วน! ป.ป.ง. แถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน ตัวการใหญ่สแกมเมอร์ 5 คดี
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2568 เกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธุรกรรมในการยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer)
'โรม' ไล่บี้นายกฯ ปลด 'ธรรมนัส' พ้นรัฐบาล หลัง ปปง. ยึดทรัพย์ 'เบน สมิธ'
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีที่ ปปง. ยึดทรัพย์ยิม เลียก-เบน สมิธ หรือเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์
พรรคหญิงหน่อยเชียร์ ปปง.ขยายปมยึดทรัพย์ถึงนักการเมือง!
'ไทยสร้างไทย' หนุนเร่งไล่ยึดทรัพย์ขบวนการสแกมเมอร์ จี้ตรวจสอบเพิ่มเส้นเงินถึงนักการเมืองคนใดบ้าง
'พงศกร' ตีปี๊บบอก ปปง.ยึดทรัพย์ทุนเทากว่า 1 หมื่นล้านจากข้อมูล ปชป.ส่งให้!
'ปปง.' ยึด-อายัดทรัพย์สแกมเมอร์ข้ามชาติ กว่า 1 หมื่นล้าน หลัง 'ปชป.' ยื่นหลักฐาน ด้าน 'พงศกร' ขอบคุณ ย้ำ พร้อมสานต่อภารกิจสร้างความโปร่งใส


