โฆษกมหาดไทยเผย 24 ต.ค. นี้ โอนเงินช่วยน้ำท่วมล็อตใหญ่ 8 จังหวัด

22 ต.ค.2567-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. และ 8 ต.ค. 67 หรือเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ไปถึงมือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด ปภ. ได้รายงานว่า ณ วันที่ 21 ต.ค. 67 ธนาคารออมสินได้โอนเงินช่วยเหลือแล้ว 9 ครั้ง สำเร็จ 48,857 ครัวเรือน เป็นเงิน 439,649,000 บาท (27,30 ก.ย. 67 และ 2,4,8,9,17,18,21 ต.ค. 67)

ภายในสัปดาห์นี้ ธนาคารออมสินเตรียมโอนอีก 2 ครั้ง รวม 54,531 ครัวเรือน รวมเป็นเงิน 490,779,000 บาท แยกเป็น ครั้งที่ 10 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เลย แพร่ และเชียงราย 14,619 ครัวเรือน เป็นเงิน 131,571,000 บาท คาดว่าจะโอนเงินในวันนี้ (22 ต.ค.67) และ ครั้งที่ 11 ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา เชียงราย พิษณุโลก น่าน ลำพูน และพะเยา 39,912 ครัวเรือน เป็นเงิน 359,208,000 บาท คาดว่าจะจ่ายเงินในวันที่ 24 ต.ค. 67 ซึ่งจะทำให้มีเงินถึงมือผู้ประสบภัยจากการโอน 11 ครั้งรวม 930,428,000 บาท

“ในวันที่ 24 ต.ค. เงินจะโอนถึงมือผู้ประสบภัย 930.42 ล้านบาท เกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณที่ได้รับอนุมัติตามมาตรการ 3,045 ล้านบาท ซึ่งท่านอนุทิน ได้มีข้อกำชับให้ทั้ง ปภ. และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังคงร่วมกันเร่งรัดกระบวนการต่างๆ เพื่อให้เงินช่วยเหลือไปถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ได้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือก่อนวันที่ 16 ต.ค. 67 ขอให้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค. 67 ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของข้อมูลการลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือ ณ วันที่ 21 ต.ค. 67 มีผู้ประสบอุทกภัยใน 57 จังหวัดขอรับความช่วยเหลือแล้ว 257,115 ครัวเรือน จากข้อมูลประมาณการของ 57 จังหวัดที่คาดว่ามีครัวเรือนประสบภัยทั้งหมด 338,391 ครัวเรือน ซึ่งจากข้อมูลการยื่นขอความช่วยเหลือแล้ว พบว่า 5 จังหวัดที่มีผู้ยื่นคำร้องสูงสุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ยื่นคำร้อง 58,439 ครัวเรือน โอนแล้ว 2,314 ครัวเรือน เป็นเงิน 20,826,000 บาท รองลงมาคือ เชียงราย มีผู้ยื่นคำร้อง 34,994 ครัวเรือน โอนแล้ว 21,792 ครัวเรือน เป็นเงิน 196,064,000 บาท พระนครศรีอยุธยา มีผู้ยื่นคำร้อง 30,119 ครัวเรือน โอนแล้ว 18,686 ครัวเรือน เป็นเงิน 168,174,000 บาท, แพร่ มีผู้ยื่นคำร้อง 14,446 ครัวเรือน โอนแล้ว 327 ครัวเรือน เป็นเงิน 2,943,000 บาท และ หนองคาย มีผู้ยื่นคำร้อง 13,063 ครัวเรือน โอนแล้ว 3,030 ครัวเรือน เป็นเงิน 27,270,000 บาท

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทั้งในส่วนของหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ขั้นตอน และระยะเวลาการดำเนินงาน รวมไปถึงวิธีการกรอกข้อมูลยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ได้ที่กองช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปภ. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2637-3508 – 10,12 หรือ 089-600-6777 และ 084-874-7387 และหากต้องการสอบถามเรื่องการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผ่านระบบออนไลน์ https://flood67.disaster.go.th หรือพบปัญหาในการใช้งาน สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปภ. ได้ที่หมายเลข 0-2637-3604-06 และ 089-968-1232.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลปลื้ม 'กทม.' คว้าแชมป์เมืองคนเที่ยวมากสุดในโลก สั่งพร้อมรับช่วงปีใหม่

รัฐบาลปลื้ม 'กรุงเทพมหานคร' คว้าอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 68 สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่

ราชกิจจาฯ ประกาศอนุญาตแรงงาน 'ลาว-เมียนมา-เวียดนาม' อยู่ไทยและทำงานได้เป็นกรณีพิเศษ

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติลาว เมียนมา และเวียดนาม

‘กวาง-ไตรศุลี’ โพสต์อุ๊ยแรง ยันปมไม่ให้สัญชาติเบนสมิธ ทำภท.ถูกเขี่ยออก

“กวาง-ไตรศุลี” โพสต์อุ๊ยแรง สมัยเป็นเลขาฯมท.1 ยืนยันข่าว อนุทิน ปฏิเสธ สัญญาณบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธ 2 ครั้ง ทำให้โกรธ พร้อมเขี่ยภท.ออก

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร

ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่